วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ความรุ่งเรืองของคริสตจักรรัสเซียออโธดอกซ์ กับปูติน

ความรุ่งเรืองของคริสตจักรรัสเซียออโธดอกซ์ กับปูติน

อะไรนะ? รัสเซียมันเป็นคอมมิวนิสต์ ไม่มีศาสนาไม่ใช่เหรอ?

ผมก็งงอยู่ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก

ตอนที่ผมเข้าเรียนภาควิชาการระหว่างประเทศของมหาลัย ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่ารัสเซียจะกลับมาเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์

รู้สึกเหมือนโลกมันหมุนกลับทางไปหมด

หกสิบปีก่อน คนกลุ่มหนึ่งบอกว่าหมดยุคของศาสนาแล้ว การปฏิวัติโค่นล้มนายทุนกำลังจะมา

ผลคือลัทธิคอมมิวนิสต์ถึงล่มสลาย ทุกวันนี้ออโธดอกซ์กลับมารุ่งเรือง - ถ้าผมเป็นคนที่เกิดในยุคตุลาที่ฝันถึงการปฏิวัติคงไปไม่เป็น

บทความนี้เราจะอภิปรายกันในเชิงรัฐศาสตร์ ถึงการเกิดขึ้นของนิกายรัสเซียออโธดอกซ์ใหม่ มันเกิดขึ้นอย่างไร มีความคิดอย่างไร ส่งผลกับรัสเซียและโลกอย่างไร เกี่ยวกับปูตินอย่างไรบ้าง

เราจะไม่พูดถึงความคิดเชิงศาสนศาสตร์ ไม่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ศาสนา ไม่มาคุยกันว่านิกายไหนดีกว่ากัน

มันไม่ใช่ว่าศาสนาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่มันทำงานสัมพันธ์กัน ศาสนาเป็นสถาบันในการส่งต่อค่านิยม ผู้คนส่งค่านิยมเข้าไปในสถาบันศาสนา ศาสนาส่งต่อค่านิยมให้ผู้คน

การไม่มีศาสนาก็เป็นชุดความคิดแบบหนึ่ง เช่นคอมมิวนิสต์ หรือเสรีนิยมใหม่ ไม่ใช่ว่าไม่มีศาสนาแล้วจะไม่มีการส่งต่อทางความคิด และค่านิยม เราจะเข้าใจการเมืองได้อย่างไร ถ้าไม่เข้าใจสถาบันในการสืบทอดความคิดเช่นนี้ก่อน

คำถามแรกคือเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร

เรามักจะเคยได้ยินคำว่า คาทอลิก กับ โปรแตสแตนท์ แต่ ออโธดอกซ์ นี่คงไม่ค่อยคุ้นหู

ออโธดอกซ์ เคยเป็นส่วนหนึ่งของสังเวียนการเมืองทางศาสนามายาวนาน ได้แยกออกมาจากโรมันคาทอลิกมาเมื่อพันปีก่อน ความคิดหลักๆ คือยอมรับศาสนประเพณี แต่ไม่ยอมรับอำนาจของวาติกัน

ออโธดอกซ์ เฟื่องฟูในยุโรปตะวันออก และตะวันออกกลาง จนกระทั้งถูกอิสลามโจมตี จึงย้ายขึ้นไปเฟื่องฟูที่รัสเซีย กลายเป็นนิกายที่เรียกว่า รัสเซียออโธด็อกซ์

เคยเผยแพร่ในตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก โดยมีจักรพรรดิรัสเซียเป็นผู้อุปถัม จนกระทั้งรัสเซียถูกคอมมิวนิสต์ปฏิวัติ ใน ค.ศ. 1917

คอมมิวนิสต์ไม่นิยมศาสนา ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในเขตอิธิพลของคอมมิวนิสต์จึงถูกคุกคามอย่างหนัก จะถูกส่งไปเข้าค่ายแรงงาน และไปอบรมใหม่ ส่วนหนึ่งตาย ที่เหลือก็ละทิ้งความเชื่อของตัวเองไป ชื่อนิกายออโธดอกซ์ จึงแทบจะหายไปจากโลก

จนกระทั้งสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 กลายเป็นรัสเซีย และประเทศยุโรปตะวันออก อีกหลายประเทศ

จนกระทั้งปูตินขึ้นรับตำแหน่งในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1999 (สัส รับตำแหน่งวันสุดท้ายของปี 1999 ตั้งใจป่ะวะ) ปูตินก็เริ่มฟืนฟูเศรษฐกิจ ของรัสเซียอีกครั้ง

คนรัสเซียเคยเชื่อว่าตัวเองเป็นอันดับหนึ่งของโลก ความพ่ายแพ้ในสงครามเย็น และการรับรู้ว่าตัวเองเป็นประเทศที่ยากจน ทำให้ประชาชนรัสเซียเสียสูญ ปูตินทำให้ชาวรัสเซียกลับมามีความรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ในสภาวะที่ประชาชนรู้สึกว่าสิ้นหวังทางความคิด เพราะไม่มีอุดมการณ์คอมมิวนิสต์อีกแล้ว ปูตินเลือกที่จะฟื้นฟูศาสนาคริสต์ขึ้นมาใหม่

เราไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ว่ากันว่าปูตินเป็นผู้ที่มีความศรัทธาทางศาสนาอย่างลับๆ ตั้งแต่สมัยเป็น KGB เรื่องเล่าว่าแม่ของปูตินพาไปแอบทำพิธีบัพติสมาตั้งแต่เป็นเด็ก และปูตินต้องซ่อนไม้กางเขนไว้ตลอดเวลา - วันหนึ่งเพื่อน KGB ของปูตินเห็นไม้กางเขนตอนพวกเขาเข้าไปในซาวน่า ปูตินตกใจ คิดว่าโดนซ่อมแน่นอน แต่เพื่อนเลือกจะไม่พูดอะไร

ในสมัยของปูติน มีการสร้างและบูรณะโบสถ์มากกว่า 25,000 แห่ง และอารามฝึกนักบวชอีก 300 แห่ง เฉลี่ยแล้วมีโบสถ์เปิดใหม่ 17 แห่งต่อสัปดาห์

อัตราส่วนประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์ จาก 31% ในปี 1991 พุ่งทะยานขึ้นเป็น 71% ในปี 2008

จึงไม่น่าแปลกใจที่โบสถ์รัสเซียออโธดอกซ์จะสอนสมาชิกว่า ปูตินเป็นผู้นำที่พระเจ้าส่งมาให้พวกเขา

ด้วยเหตุนี้ทำให้โบสถ์รัสเซียออโธดอกซ์กับปูตินมีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น

ปูตินหนุนโบสถ์ โบสถ์หนุนปูติน

โบสถ์รัสเซียออโธดอกซ์ทำหน้าที่ส่งต่อค่านิยมบางอย่างให้กับประชาชน

คุณค่าที่นิกาย ออโธดอกซ์ ให้การเชิดชูคือ "ความดั่งเดิม ตามประเพณี" เหมือนกับชื่อ ออโธดอกซ์

พวกเขาปฏิเสธค่านิยมของคอมมิวนิสต์ และประนามว่าความทุกข์ยากทั้งหลายที่ชาวรัสเซียเคยเผชิญมาจากบาปที่ทอดทิ้งพระเจ้า เหมือนที่ชาวอิสราเอลในพระคำภีร์เดิมเคยทำ

ในทางเดียวกันพวกเขาก็ปฏิเสธค่านิยมแบบตะวันตก

รัสเซียออโธดอกซ์บอกว่า "เชิดชูสิทธิมนุษยชน แต่ประนามการบิดเบือนสิทธิมนุษยชนของตะวันตก"

เมื่ออิตาลี่ตกลงทำตามข้อตกลงของสหประชาชาติเรื่องการห้ามมีสัญลักษณ์ทางศาสนาในสถานที่ราชการ รัสเซียออโธดอกซ์ ได้ทำการประท้วง และส่งหนังสือไปสนับสนุนพระสันตปาปาแห่งโรม

รัสเซียออโธดอกซ์คิดว่าตะวันตกได้สูญเสียค่านิยมอันดีงามไปแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังเริ่มฟื้นฟูมันกลับมา

พวกเขาปฏิเสธการทำแท้ง การุณยฆาต การแต่งงานในเพศเดียวกัน และค่านิยมเสรีนิยมต่างๆ ที่พวกเขาเรียกว่าเป็น "ค่านิยมไร้ศาสนาสุดโต่ง"

สำหรับรัสเซียออโธดอกซ์แล้ว พวกเขามองสิ่งที่เสรีนิยมตะวันตกทำ เป็นการทำงานรูปแบบเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต คือพยายามเผยแพร่ลัทธิความคิดบางอย่าง โดยอ้างว่ามันไม่ใช่ศาสนา เป็นปรัชญาความก้าวหน้าของมนุษย์อันเป็นสากล แต่สำหรับผู้อยู่ในสังคมโซเวียตเก่า รู้สึกว่าจริงๆเสรีนิยมแบบตะวันตกก็เป็นลัทธิชนิดหนึ่ง

ฝ่ายขวาจัดของรัสเซียมองว่าชุดความคิดแบบนี้เป็นศัตรูทางความคิดกับรัสเซียออโธดอกซ์ และพวกเขาต้องพยายามต่อต้านมัน

ความทรงพลังของรัสเซียออโธดอกซ์คือความโหดสัสรัสเซีย

เคยมีคนประท้วงการใช้สวนสาธารณะไปสร้างโบสถ์ อาทิตย์ต่อมาโดน FSB (ไอ้ที่เคยเป็น KGB) บุกบ้านกลางดึก

นิกายอื่นนอกจากรัสเซียออโธดอกซ์ก็ถูกกีดกัน เคยมีมิชชันนารีของพยานพระยโฮวาไปเผยแพร่ในรัสเซีย (เป็นนิกายที่เชื่อในพระเจ้า แต่ไม่เชื่อในตรีเอกานุภาพ จึงถูกจัดว่าเป็นพวกสอนผิดจากนิกายหลัก) ก็โดน FSB บุกเข้าบ้านกลางพิธี โดนข้อหาอะไรสักอย่างติดคุกไป 10 ปี

นอกจากนั้นคำสอนต่อต้านเกย์อย่างรุนแรง ยังทำให้ขบวนการแสดงพลังเพศทางเลือกถูกคนเข้าทำร้ายกลางวันแสกๆ โดยที่ตำรวจไม่ได้สนใจจะจัดการกับคนทำร้ายจริงจัง

วง pusy riot ที่ไปประท้วงในโบสถ์ ก็โดนจับทันที และส่งไปลงโทษด้วยการใช้แรงงาน

เป็นความรุนแรงที่มีการจัดระบบ มีการหนุนโดยรัฐ ไม่ใช่การก่อการร้ายแบบไร้ระเบียบ

ประชาชนยังรัสเซียชอบและสนับสนุนให้เป็นแบบนี้ เพราะติดนิสัยมาจากสมัยโซเวียต

ความโหดสัสของอุดมการณ์นี้ยังส่งผลไปยังการเมืองระหว่างประเทศในประเทศรอบๆด้วย

พระอัยิกาผู้นำทางศาสนาของรัสเซียออโธดอกซ์ประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้ายมุสลิม

ในกองทัพมีหน่วยทหารพระสำหรับทำพิธีต่างๆให้แนวหน้า พร้อมที่จะนำทัพในสงคราม - มีผลงานได้สงครามเชสเนียร์ และศึกกับยูเครนในไครเมียร์

แน่นอนว่าโบสถ์รัสเซียออโธดอกซ์ ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทมากในการจัดตั้งม็อบชาวรัสเซียในไครเมียร์ที่เรียกร้องการประกาศเอกราช ซึ่งที่สุดแล้วเป็นสาเหตุให้รัสเซียอ้างเหตมาปกป้องคนเชื่อสายรัสเซีย จนเคลื่อนทัพเข้ามา และเป็นต้นเหตุของศึกไครเมียร์ (ทุกวันนี้รัสเซียยึดไครเมียร์อยู่ และผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย)

พวกฝ่ายขวาจัดของรัสเซียเชื่อว่าหากอิธิพลของรัสเซียออโธดอกซ์แผ่กลับไปยังตะวันออกกลางได้ ความวุ่นวายต่างๆก็จะหมดไป

พวกผู้ก่อการร้ายเนี่ยจะระเบิดโบสถ์นิกายออปติก คาทอลิก อะไรก็ระเบิดได้ หรือจะไปกราดยิงในโบสถ์อเมริกันก็ได้ แต่อย่าแหยมกับรัสเซียออโธด็อกซ์ พระคงจะเอา AK ขึ้นมายิงสู้จริงจัง

ถ้าผู้ก่อการร้ายจับตัวประกัน จะเอาพระมาสวด แล้วบอกว่า "ฆ่าแม่งให้หมดเลย เดี๋ยวพระเจ้าไปแยกเอาบนสวรรค์" แบบยุคกลางมั้ย

นี่มันยุคสมัยพระเจ้าซาร์เรอะ...

ที่น่ากลัวคือ มันได้ผล พวกผู้ก่อการร้ายนี้เก่งกับพวกยุโปรตะวันตกที่ใจดี แต่พอเจอพวกโหดสัสแบบรัสเซีย หรือยิวอิสราเอลเข้าไป นี้เงียบกริบ

หรือว่าโลกต้องการของแบบนี้จริงๆ?

แล้วรัสเซียออเธอด็อกซ์จะเอายังไงต่อ จะเผยแพร่อุดมการณ์แบบสมัยคอมมิวนิสต์ หรือยุคเผยแพร่ศาสนามั้ย?

ถ้าลงไปเผยแพร่ตีกับอิสลามในตะวันออกกลาง อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นั่งสมาธิแล้วชา นั่งสมาธิแล้วชา

ถาม  นั่งสมาธิแล้วชา ตอบ  อันนี้เป็นเรื่องของธรรมดาของกาย ที่นั่งนานๆ ย่อมเกิดความมึนชาขึ้นมา ถ้ารู้สึกเจ็บปวด หรือชาขึ้นมาแล้ว เราหยุดเปลี...