เซนในเก้ากระบี่เดียวดาย เซนในเหล่งฮู้ชง
ถ้าจะกล่าวถึงว่า ตัวเอกของท่านกิมย้ง แต่ละคนนั้น นับตั้งแต่ ก๊วยเจ๋ง ที่เป็นตัวแทนการฝึกตนแบบ ขงจื้อ เอี้ยก่วย ปล่อยตนตามธรรมชาติแบบเต๋า เตียบ่อกี้ มีเมตตาธรรม การให้อภัย แทนตัวตนในศาสนาพุทธ เหล่งฮู้ชง ในกระบี่เย้ยยุทธจักร ย่อมถูกจัดอยู่ใน รูปแบบของเซน
เซน ได้แฝงเอาพุทธปรัชญาไว้กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน เช่น พิธีชงชา อิเคบานะ (การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น) วิถีซามุไร คิวโด(การยิงธนูแบบญี่ปุ่น) แม้แต่แนวทางการเล่นโกะหรือหมากล้อมแบบญี่ปุ่น และ ในเก้ากระบี่เดียวดาย นั้นเป็นหลักของเซนอย่างชัดเจน
ตามคติของนิกายเซน ถือว่าธรรมเนียมของนิกายนี้ได้รับการสืบทอดจากพระศากยมุนีพุทธเจ้า ผ่านทางพระอริยสงฆ์สาวกในสายของพระมหากัสสปะ โดยได้รับการถ่ายทอดธรรมะด้วยวิถีแห่ง "จิตสู่จิต" เปรียบเสมือน ฟงชิงหยาง ถ่ายทอด เคล็ดเก้ากระบี่เดียวดาย ปากเปล่า ให้ เหล่งฮู้ชงรู้แจ้ง ด้วยตนเอง
ยิ่งเคล็ด เก้ากระบี่เดียวดาย ยิ่งสะท้อนแก่นของเซน
คำของปรมาจารย์รุ่นแรกสุดของเซน มีอยู่ 4 ประโยค
1. "พ้นจากการบัญญัติ" ฟงชิงหยาง ให้เหล่งฮู้ชงใช้สามสิบกระบวนท่าของสำนักหัวซานให้ชมดู แต่กระบวนท่านี้มิร้อยเรียง ฟงชิงหยางจึงกล่าว “การฝึกปรือของเจ้าในตอนนี้ ไยใช้สามสิบกระบวนให้ร้อยเรียงมิได้ เมื่อใช้ท่ารุ้งขาวพุ่งหาอาทิตย์ ปลายกระบี่ชี้ขึ้น หรือมิรู้จักลากลงมา”
2. "เข้าถึงไม่ได้ด้วยการเรียนตามตำรา" ยามที่เถียนป๋อกวงบีบคอเหล่งฮู้ชง ฟงชิงหยางแนะนำ ให้ใช้ ดรรชนีแทนกระบี่ “กระบวนท่ากิมเง็กมั่งตึ๊ง (ทองหยกเต็มบ้านเรือน) ต้องมีกระบี่จึงใช้ออกหรือ?”
3. "ลัดตรงเข้าสู่ใจ" ฟงชิงหยางยังสอน ให้เหล่งฮู้ชงหัดใช้ให้เป็น
4. "มองดู (รู้) พุทธะก็เกิด" ไร้ซึ่งกระบวนท่า จะทำลายได้อย่างไร?
สี่หลักแห่งเซนนี้เอง นำพา เหล่งฮู้ชงสู่แก่นแท้ของ เก้ากระบี่เดียวดาย
นอกจากหลักวิชา เก้ากระบี่เดียวดาย ใน สันดานของเหล่งฮู้ชง ก็เป็นเซน อย่างยิ่ง
“อะไรเกิดขึ้นที่จิตก็ให้รู้ไป ไม่ต้องไปแบ่งแยกให้ค่าว่า อันนี้ถูก อันนี้ผิด ถ้าหลุดพ้นจากการให้ค่าพวกนี้ได้ ก็จะเข้าใจจิตได้” อาจารย์เค็งเซ็น ได้กล่าวไว้ ช่างตรงกับ อุปนิสัยของเหล่งฮู้ชง อย่างยิ่ง ใจเหล่งฮู้ชง มิแบ่ง ฝ่ายธรรมะ อธรรมะ เพียงแต่เหล่งฮู้ชงมองเนื้อแท้ มากกว่าป้ายยี่ห้อสำนักธรรมะ อย่างจ้อแน้เซียง คนผู้นี้เป็นผู้นำห้าสำนักกระบี่ ฝ่ายธรรมะ แต่ละโมบโลภมาก จิตใจชั่วช้าอำมหิต เปรียบกับ เถียนป๋อกวง โจรปล้นสวาทชื่อเสียงอื้อฉาว ฉายา โดดเดี่ยวหมื่นลี้ เหล่งฮู้ชงยอมคบกับเถียนป๋อกวงเป็นสหาย เพราะ มันเป็นคนที่มีสัจจะวาจา พูดคำไหนคำนั้น ดีกว่าให้คบค้าสมาคม กับ จ้อแน้เซียงและพวก
บรรทัดฐานของเหล่งฮู้ชง ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง งักปุกคุ้งผู้เป็นอาจารย์ก็ตักเตือนเรื่องการคบหาผู้คนฝ่ายอธรรม พานให้ข้าพเจ้าคิดถึง คำกล่าวของเตียซำฮง ที่กล่าวกับศิษย์ลำดับห้า เตียชุยชัว เรื่องที่ภรรยา ฮึงซูซู่ เป็นคนนิกายเหยี่ยวฟ้า ฝ่ายอธรรม
“ นั่นจะเป็นไรไป ขอเพียงนางไม่ได้ประพฤติเลวร้ายก็ใช้ได้แล้ว หรือถ้านางเคยประพฤติไม่ดี เมื่อขึ้นเขาบู๊ตึงหรือไม่สามารถเกลี้ยกล่อมกลับกลาย ชุ่ยซัว คนเรามิอาจมีจิตใจคับแคบเกินไป อย่าได้อวดตนว่าเป็นศิษย์สำนักมาตรฐาน คำว่า ธรรมะ อธรรม ยากแยกแยะ หากศิษย์ฝ่ายธรรมะประพฤติไม่เที่ยงตรง เราจะถือฝ่ายธรรมะได้หรือ ชนชาวฝ่ายอธรรมมุ่งทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น นั่นก็นับเป็นวิญญูชนที่เที่ยงธรรม”
เซนในสันดาน ของ เหล่งฮู้ชง สอนให้ตัวมันเอง มองเห็นผู้คนที่แก่น มิใช่ เปลือก เมื่อในสายตาท่านมิแบ่งสีขาว สีดำ แต่ท่านเข้าใจแก่นแท้ของมันว่า ในขาวนั้นลึกๆอาจมีดำซ่อน ในดำบางคราก็มีสีขาว และขาวมีข้อดีของขาว ดำก็มีข้อดีของดำ ใจที่วัดดำขาวนั้นมีมาตราฐานอันใดไปวัด จับต้อง ใจของเหล่งฮู้ชง มิจับต้อง มิถ่วงวัด เมื่อเป็นอิสระต่อตัวตน ทุกสรรพสิ่งย่อมเท่าเทียม มีเพียง "แก่น" เท่านั้นที่แตกต่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น