พระพุทธเจ้าสอนว่า จิตไม่ใช่จิตว่างนะ อย่าไปถือว่ามันจะว่างให้ ให้เรามีสติมีสัมปชัญญะ รู้ตัวเสมอ มันว็อกแว็ก ๆ อยู่อย่างนั้น เหมือนกันกับฟองน้ำ เดี๋ยวมันเกิดขึ้น เดี๋ยวมันดับ ดวงจิตมันไม่รู้จักอะไรหมดทั้งนั้น มันอาศัยเราทรมาน คือเราได้ยินได้ฟังแล้ว เราก็ให้มีสติขัดเกลา สั่งสอนมัน ให้มันรู้ เพราะมันไม่รู้นี่แหละ จิตดวงนี้แหละเรียกว่า อวิชชา คือความไม่รู้ จิตดวงนี้น่ะเรียกว่าอวิชชา
ครั้นแนะนำสั่งสอนมัน ให้มันรู้ตามความเป็นจริงของโลกนั่นแหละ มันจึงได้ปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น โดยอุปาทานว่า จิตของเรามันปล่อยวาง ตัวอวิชชาก็แม่นดวงจิต นั่นแหละท่านสอนให้อบรมขัดเกลาจิตทุกเวลา
เมื่อกิเลสมันเบาบาง มันหมดออกไปแล้ว มันขาว มันสะอาดแล้ว นั่นแหละจิตมันแจ้ง มันส่องแสงขึ้น ความส่องแสงขึ้น รู้เท่าสังขารตามความเป็นจริงของมันยังไง รู้ยังงั้น แล้วไม่ยึดไม่ถือ เลิก เกิดมาชาติใดก็ดี เราไม่ใช่จะเกิดมาชาติเดียวนี้ ตั้งแต่แผ่นดินเป็นแผ่นดินก็เกิดมา
หลวงปู่ขาว อนาลโย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น