วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ผู้รู้ ผู้หลง

" ผู้รู้ กับ ผู้หลง "

( ผู้รู้ ) มี ๒ สภาวะ
1. " ผู้รู้ " ที่เกิดจากสมาธิจิต " อัปปนาสมาธิ "
อันเป็น " สมาธิหลับตา " มีกาลเวลา มีสถานที่ จิตจะรวมในขณะที่จิตทรงอยู่ในสมาธิเท่านั้น " ผู้รู้ " จะเกิดในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อสติอ่อน สมาธิจะเสื่อมคลายได้ " ผู้รู้ " จะหายไปแต่ก็ใช้ " เดินวิปัสสนาปัญญา " ตัดสังโยชน์ ได้เหมือนกัน ท่านที่เจริญ " ปัญญาวิมุติ " ท่านจะใช้
" ผู้รู้ " ตัวนี้ " วิปัสสนาปัญญา "

2. " ผู้รู้ " อีกสภาวะหนึ่งคือ " ผู้รู้ " จากสมาธิจิต " ฐีติจิต "
จิตเป็นสมาธิในทุกอิริยาบถ เป็นสมาธิจิตที่ " ไม่มีการถอนกิเลสอีก " ไม่มีกาลเวลา ไม่มีเสื่อมคลายเป็น " อกาลิโก "
เส้นทาง " เจโตวิมุติ " จะเจริญปัญญาด้วย " ผู้รู้ " ตัวนี้

( ผู้หลง ) เป็นจิตที่ " ไม่มีสมาธิจิต " ทั้ง
" อัปปนาสมาธิ " และ " ฐีติจิต " มีแต่ " สัญญา "
สัญญา หมายถึง " ความจำ " จำจากการเรียนรู้จากตำรา จากพระไตรปิฏก จากพุทธวจนะ จากหลวงปู่ หลวงพ่อ จากพระอรหันต์เจ้า เป็น " ความจำทั้งหมด " ไม่เข้าสู่เส้นทาง " มรรค๘ " จิตยังไม่รวมลง " ผู้รู้ " ผู้รู้ยังไม่เกิด จึงยังเป็น " ผู้หลง "
หลงธรรมคำสอน ก็ถือว่าเป็น " ผู้หลง " อยู่ ... สาธุครับ...

.
(สู่แดน พระนิพพาน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นั่งสมาธิแล้วชา นั่งสมาธิแล้วชา

ถาม  นั่งสมาธิแล้วชา ตอบ  อันนี้เป็นเรื่องของธรรมดาของกาย ที่นั่งนานๆ ย่อมเกิดความมึนชาขึ้นมา ถ้ารู้สึกเจ็บปวด หรือชาขึ้นมาแล้ว เราหยุดเปลี...