วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561

หลวงปู่ชอบเผชิญหน้ากับพญานาค แห่งน้ำตกไนแอการา !

🔥หลวงปู่ชอบเผชิญหน้ากับพญานาค
แห่งน้ำตกไนแอการา !

๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ "หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" รับนิมนต์จากลูกศิษย์
ที่เมืองบัฟฟาโลเพื่อเดินทาง
ไปชมน้ำตกไนแอการา  คณะติดตามท่านไปชมน้ำตกประกอบด้วย
ท่านเจ้าคุณมหาสมาน (วัดธรรมบูชา) ท่านเจ้าคุณมหาประสาท (วัดสังฆะบูชา) พระอาจารย์เฉลียว วรกิจโจ พระอาจารย์แสง จิรวัฒฑโก พระอาจารย์อำนวย กันตจาโร พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท (ครูบากล้วย ผู้บันทึก) ลูกศิษย์ฆราวาสผู้ติดตามมีคุณแม่จ้อย (อาจารย์จันทน์นวล พรมมาส) ท้าวกุ้ง ชาวลาวสัญชาติอเมริกัน และโยมชาวลาวที่อยู่เมืองบัฟฟาโลอีกสี่คน ร่วมเดินทางไปชมน้ำตก

คณะเดินทางออกจากเมืองบัฟฟาโลมาที่น้ำตกไนแอการาใช้เวลาประมาณสี่สิบนาที  วันนั้นแสงแดดแรงมากจนหลวงปู่ชอบต้องใส่แว่นตากันแดด  ก่อนถึงน้ำตกอีกไม่กี่ไมล์ก็เริ่มเห็นไอน้ำลอยฟ่องบนอากาศ  โยมที่มาด้วยชี้บอกพิกัดของน้ำตกให้ท่านดู ท่านก็มองดูไอน้ำบนอากาศอย่างสนใจ

เมื่อถึงน้ำตก...เป็นที่น่าสังเกตว่า หลวงปู่ชอบดูเงียบขรึม ไม่พูดจากับใคร  ไม่ว่าโยมจะว่าหรือพระจะถามอะไร ท่านก็ไม่พูดด้วย

หลังจากคณะอยู่ที่นี่ได้พักหนึ่ง ฟ้าที่แจ้งก็เริ่มครึ้มฝน มองดูรอบน้ำตกก็มีแสงแดดส่องตามปกติ  มีเพียงบริเวณที่หลวงปู่ชอบอยู่เท่านั้นที่มีเมฆมัวมาจากฝั่งประเทศแคนาดา  เมฆก้อนนี้ก่อตัวขึ้นมาได้ไม่นาน ฝนก็ตกลงมา  คณะทั้งหมดจึงพากันเข้าไปหลบฝนที่ร้านขายของที่ระลึก  หลบกันอยู่ที่นี่ประมาณสิบนาที ฝนก็ซา  แต่ทว่าเมฆมัวเหนือน้ำตกไนแอการายังคงเค้ารูปแม่เบี้ย  คนในคณะถึงกับแตกตื่นฮือฮา  หลวงปู่ชอบจึงบอกให้สำรวมปากสำรวมคำ

"อยู่เฉย ๆ อย่าพูดมาก ... ไม่เคยเห็นหรือ!"

พอฝนหยุดตกก็พากันออกจากร้านขายของที่ระลึกและชมน้ำตกไนแอการา  แต่ไม่ถึงสิบนาที ฝนก็เทลงมาอีกรอบ ซึ่งรอบที่สองนี้ตกหนักอย่างกับฝนนางแมวเซิ้งบั้งไฟ  คณะทั้งหมดจึงพาหลวงปู่ชอบเข้าไปหลบฝนที่อาคารเช่าชุดสำหรับลงไปชมน้ำตก  ระหว่างหลบฝนกันอยู่ที่นี่ หลวงปู่ชอบได้บอกให้ทุกคนกลับกันเดี๋ยวนี้

เมื่อฝนหยุดตกแล้ว คณะของหลวงปู่ชอบก็ได้เดินทางกลับไปที่บ้านของโยมชาวลาวในเมืองบัฟฟาโลและพักกันที่นั่นในคืนนั้น

หลังทำวัตรสวดมนต์แล้ว ผู้บันทึกได้เข้ามาช่วยดูแลหลวงปู่ชอบ  ระหว่างที่กำลังนวดถวาย ท่านก็ถามว่า

"ตอนอยู่น้ำตก ท่านเห็นอะไรไหม?"

"ที่นั่นมีอะไรหรือขอรับ?"

หลวงปู่ชอบบอกว่า

"ที่น้ำตกมีพวกอินเดียนกับพวกฝรั่งตายเพราะรบกันอยู่นั่น  พวกนี้พากันมาขอให้เราอุทิศบุญให้  ผู้มีวาสนาต่อกันเราก็โปรดเขาได้  ผู้ไม่มีวาสนาต่อกันเราก็โปรดเขาไม่ได้  เราโปรดสัตว์อยู่นั่นให้ไปจุติใหม่เป็นพัน  ผู้มีกรรมดีจะได้เกิดเป็นมนุษย์  ผู้มีกรรมบาปหยาบหนาจะได้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน  ผู้ไม่มีกรรมนำเกิดก็ต้องอยู่นั่นต่อไปอีก...รอผู้มีวาสนามาโปรดหรือรอจนพ้นกรรม"

หลวงปู่ชอบยังบอกอีกว่า

"ที่น้ำตกมีพญานาคพ่อลูกตระกูลฉัพพยาปุตขึ้นมาอนุโมทนาบุญตอนที่เรากำลังแผ่เมตตาโปรดสัตว์อยู่  พญานาคสองพ่อลูกแสดงอนุโมทนาด้วยการแผ่พังพานบังแดดและบันดาลฝน  ฝนที่ตกใส่พวกเราก็คือฝนที่เกิดจากพญานาคแสดงฤทธิ์ ไม่ใช่ฝนตามฤดูกาลหรอก  พญานาคเขาแสดงฤทธิ์ให้พวกท่าน
เห็นเป็นพยาน"

พอได้ยินหลวงปู่ชอบบอกเช่นนั้น ผู้บันทึกก็รู้สึกประหลาดใจมาก  ถ้าเป็นเรื่องเทพเทวดามาขอฟังธรรมกับท่านที่วัดพุทธรัตนาราม รัฐเทกซัส ท่านจะบอกให้ทราบแทบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ  แต่วันนี้เมื่อท่านบอกว่า ในเมืองฝรั่งมังค่าอย่างสหรัฐอเมริกาก็มี "พญานาค" จึงรู้สึกแปลกใจ

ผู้บันทึกถามหลวงปู่ชอบว่า  ทำไมพญานาคถึงมาอยู่ที่อเมริกา?  ทำไมพวกเขาไม่ไปอยู่เมืองไทยหรือประเทศชาติบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา?  เมืองฝรั่งอย่างอเมริกานี้เขาก็ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนาเป็นหลักเป็นฐานเหมือนกับพวกเรา ทำไมพญานาคถึงได้มาเกี่ยวข้องด้วย?

หลวงปู่ชอบตอบว่า

"เกี่ยวกับเรื่องกรรม ... พญานาคตระกูลฉัพพยาปุตผู้นี้เขาอยู่ที่นี่มาก่อนที่ผู้คนจะเข้ามาอยู่เสียอีก  พญานาคอยู่น้ำตก (ไนแอการา) เขามีอายุได้สามหมื่นปีแล้ว ประเทศอเมริกาเพิ่งตั้งมาไม่กี่ร้อยปีเอง ... ท่านก็คิดเอาว่าใครมาอยู่ที่นี่ก่อนกัน!"

ผู้บันทึกจึงคิดตามว่า  ประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่งตั้งประเทศมาได้ประมาณสองร้อยกว่าปีเศษที่ผ่านมา ... อายุประเทศชาติบ้านเมืองของเขานั้นไม่เกินกันมากกับกรุงรัตนโกสินทร์
ของประเทศไทยเรา

หลวงปู่ชอบบอกต่อไปว่า

"ดึกคืนนี้พญานาคฉัพพยาปุตเขาจะพาบริวารมาฟังธรรมกับเรา  ขอให้ท่านสำรวมไว้ อย่าเป็นลิงเป็นค่างตามใจตนเอง  ถ้าง่วงก็ให้พิงฝาหลับเอา อย่ามานอนเป็นตะเข้ขวางคลอง
ข้างเราเป็นอันขาด  พวกเทวดาเขาจะตำหนิในสมณสารูปของพระเณรเราเอาได้"

ผู้บันทึกเฝ้าคอยหลวงปู่ชอบอยู่จนถึงตีสี่กว่า...ได้ยินเสียงท่านเคาะกระโถนดังก๊อก ๆ บอกสัญญาณ จึงพาท่านมานั่งเก้าอี้เพื่อนวดเส้นถวาย  ระหว่างนวด ท่านก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟังว่า

"พญานาคฉัพพยาปุตจำแลงเป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่งกายด้วยผ้าหม้อห้อม พาบริวารชายหญิงมาหาเรา แล้วขอให้เราแสดงธรรมเปตพลีบุญให้ฟัง"

ผู้บันทึกถามว่า

"เปตพลีบุญคือธรรมอะไรหรือขอรับ?"

หลวงปู่ชอบตอบว่า

"เปตพลีบุญคือบุญที่เราอุทิศให้กับบรรพบุรุษญาติมิตรผู้เกี่ยวข้อง  ต้นทางสายบุญทั้งหลายนั้นเกิดจาก
จิตที่เป็นกุศล  คำว่าจิตเป็นกุศลคือจิตมีปัญญาในการทำความดี  บุญทุกอย่างนั้นเริ่มต้นจากเจตนาที่ดีก่อน  เปรียบดั่งสาครไหลลงทะเลหลวง  บุญกุศลทั้งหลายที่กระทำมานั้นสุดท้ายปลายทางจะไหลลงไปรวมกันที่มหาสมุทรทะเลหลวง คือ นิพพานธาตุ"

• บันทึกเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ ที่เมืองบัฟฟาโล USA โดยครูบากล้วย

✨ประวัติหลวงปู่ชอบ ฐานสโม โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่มที่ ๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นั่งสมาธิแล้วชา นั่งสมาธิแล้วชา

ถาม  นั่งสมาธิแล้วชา ตอบ  อันนี้เป็นเรื่องของธรรมดาของกาย ที่นั่งนานๆ ย่อมเกิดความมึนชาขึ้นมา ถ้ารู้สึกเจ็บปวด หรือชาขึ้นมาแล้ว เราหยุดเปลี...