ความหมายของหลวงปู่ดูลย์นะ
สิ่งที่ท่านพูดถึง : “ ว่าง สว่าง บริสุทธิ์ หยุดการปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา หยุดกริยาของจิต ไม่มีอะไรเลย ไม่เหลืออะไรสักอย่าง ”
อันนั้นเป็นอริยผล เป็นลักษณะของจิตที่เป็นผลแล้ว ไม่ใช่เหตุ สิ่งที่พวกเราต้องทำคือ ( ทำเหตุ ไม่ใช่ทำผล ) ผลเป็นเอง ทำเหตุให้ได้แล้วผลเป็นเอง ไม่มีใครทำอริยผลให้เกิดขึ้นได้นะ สิ่งที่ทำให้อริยผลเกิดขึ้นก็คือ ( อริยมรรค ) เพราะฉะนั้นเราทำเหตุ
ถ้าทำเหตุได้ เราทำเหตุฝ่ายเกิด คือ มีตัณหานะ แล้วก็มีตัวทุกข์ขึ้นมา เราทำเหตุฝ่ายดับ คือ เจริญมรรค มีศีล สมาธิ ปัญญาขึ้นมา ก็มีผล เข้าไปสู่นิโรธ มีเหตุมีผลอยู่ ถ้าเข้าถึงนิโรธเต็มภูมินะ ก็จะไปสัมผัสพระนิพพานเต็มภูมิ สิ่งนี้ไม่มีเกิด ไม่มีดับ ไม่มีตาย ไม่มีตั้งต้น ไม่มีจุติ ( ตาย - ผู้ถอด ) ไม่มีอุบัติ ( เกิด - ผู้ถอด ) ไม่มีความเคลื่อนไหวไปมา ส่งไปส่งมา ไม่มีพระอาทิตย์ พระจันทร์ ไม่มีฌานสมาบัติ ไม่มีอะไร แต่มีอยู่ มีความสงบ มีความสันติ มีความสุข เป็นบรมสุข เพราะไม่มีอะไรเสียดแทง ( ความเสียดแทงคือ ความเป็นทุกข์ ความบีบคั้น คือ ทุกขตาในอริยสัจจ์ – ผู้ถอด ) สิ่งเหล่านี้มีอยู่
ก็อยู่ที่เรา ทำเอาให้ได้นะ ทำ ถ้าทำบ้างไม่ทำบ้าง ไม่ได้กินหรอก ถ้าทำผิดก็ยิ่งไกลมันออกไปอีก ทำผิดแล้วเดินไปคนละทิศคนละทาง ยิ่งขยันยิ่งหลงไกล
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น