พระอภิธรรม.....การทำงานของจิต
การทำงานของจิตจะเกิดดับสืบต่อกันไปอย่างไม่ขาดสาย ในพระสูตรตอนหนึ่ง
พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มีใจความว่า
"ยากที่จะนำสิ่งอื่นๆทั้งหลายในโลก
มาเปรียบเทียบกับความเกิดดับอันรวดเร็วของจิต เพราะจิตเกิดดับ เกิดดับ เร็วกว่าสิ่งใดๆในโลกเพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียวจิตจะเกิดดับถึงแสนโกฏิขณะ
หรือ ๑,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ หนึ่งล้านล้านดวง"
ที่ว่าจิตมีการเกิดดับสืบต่ออย่างไม่ขาดสาย เพราะจิตดวงที่ ๑ เกิดขึ้นแล้วดับไป ต่อจากนั้น
จิตดวงที่ ๒ ก็จะเกิดขึ้นติดต่อกันแล้วก็ดับไปอีก
เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ
ภาวะที่จิตเกิดดับต่อกันเป็นกระแสนี้ท่านเรียกว่า
"สันคติ" ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับกระแสน้ำ
ที่ประกอบไปด้วยอณูของน้ำเล็กๆ
เรียงติดต่อกันเป็นสาย ขณะที่กระแสจิตไม่ออกมารับรู้เรื่องราว (อารมณ์) ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย
และใจ จิตในขณะนั้นมีชื่อเรียกว่า "ภวังคจิต"
ซึ่งเป็นจิตที่ทำหน้าที่รักษารูปนาม
ในภพปัจจุบันไว้มิให้แตกทำลายไป
จนกว่าจะสิ้นอายุจากภพนี้ แม้ในขณะหลับสนิท (ไม่มีการฝัน) หรือสลบไป ก็จะมีภวังคจิต
เกิดดับสืบต่อเนื่องกันตลอดเวลา
อารมณ์ของภวังคจิตเป็นอารมณ์ที่สืบเนื่องมาจากเหตุปัจจัยในอดีตภพ เมื่อใดก็ตามที่จิตออกมารับรู้เรื่องราวทางประตู (ทวาร) ทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เมื่อนั้นจิตจะขึ้นสู่วิถีซึ่งเรียกว่า "วิถีจิต" และเมื่อสิ้นสุดแต่ละวิถีก็จะมีภวังคจิต ที่คอยรักษาภพชาติเกิดคั่นอยู่ทุกครั้ง
แต่เราจะไม่รู้สึกตัวเพราะการเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมานั้นเกิดขึ้น รวดเร็วมาก
แม้แต่แสงไฟจากหลอดไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีการกระพริบ (เกิดดับ) ตามความถี่ของไฟฟ้า กระแสสลับด้วยความเร็ว เพียง 50 ครั้งต่อวินาทีเท่านั้น เราก็ยังไม่สามารถสังเกตเห็นการกระพริบของแสงไฟได้เลย ดังนั้น จิตซึ่งมีการเกิดดับอย่างรวดเร็วถึงประมาณ ๑ ล้านล้านครั้งต่อวินาที จึงไม่น่าสงสัย ว่าทำไมเราถึงไม่สามารถที่จะรู้สึกได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น