“…ถ้าเราจิตใจเป็นปกติแล้ว ก็เรียกว่า ‘เป็นพระ’
‘พระ’ ก็แปลว่า ผู้สอนคนนั่นเอง
อันพระอย่างที่ตัวอาตมา กับตัวเพื่อนภิกษุสามเณรนี่
อันนี้เป็นพระโดยสมมติ
คนที่ยังไม่เคยรู้ ก็ต้องเข้ามาวัด
เห็นพระสงฆ์ ก็สบายใจ...นี่ไปติดสมมติ อันนั้นก็ดีแล้ว
และยกมือขึ้นไหว้...ก็ไปติดสมมติ
ไปยกมือไหว้พระพุทธรูป และยกมือไหว้พระอริยบุคคล
แล้วยกมือไหว้พระสงฆ์ที่(เป็นพระ)โดยสมมติ...เราก็สบายใจ
แต่ยังไม่เคยยกมือไหว้ตัวเอง...อันนั้นมันก็ยังไม่ทันดี
แต่มันก็ดี...แต่ดีมันไม่เข้าถึงตัวเอง
ดังนั้น พระพุทธเจ้าท่านสอน ‘ให้ทุกคนเข้าถึงตัวเอง
เข้าถึงชีวิตตัวเอง เข้าถึงการกระทำ(ของ)ตัวเอง’
เมื่อเราเข้าถึงชีวิตตัวเอง เข้าถึงการกระทำตัวเอง
เข้าถึงการปฏิบัติตัวเองแล้ว...อันนั้นล่ะ คือ ‘พระแท้’
‘พระ’นั้น...จึงว่า แปลว่า ‘ผู้ประเสริฐ’
คนใดประเสริฐแล้ว...ก็ต้องมีศีล
คนใดยังไม่ประเสริฐ...ศีลยังไม่ปรากฏ
เพราะศีลเป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างหยาบอยู่แล้วนี่
ถ้าเรายังกำจัดกิเลสอย่างหยาบไม่ได้
ก็ชื่อว่า ‘ยังไม่มีศีล’ มีศีลโดยสมมติ มีอยู่
ในขณะที่เรารับศีลจากพระสงฆ์องค์เจ้า
ปาณา อทินา...ศีล ๕
ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ หรือศีลภิกษุณี ๓๐๐ กว่า ก็มี
แต่อันนั้นมันเป็นเพียง(ศีล)สังคม
ยังไม่ใช่เป็นศีลที่กำจัดกิเลสอย่างหยาบ...”
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
------------------------------------------------------------------------------------------------
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
※ ~ รู้สึกตัว - เป็นปกติ - อยู่กับปัจจุบัน ~ ※
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
รู้สึกกาย รู้สึกใจ
_/|\_ _/|\_ _/|\_
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น