วิธีนั่งบริกรรม
นั่งขัดสมาธิก็ได้ นั่งพับเพียบก็ได้
เอาตีนขวาทับตีนซ้าย
ตั้งกายให้ตรง แล้วก็หลับตา
แล้วก็ดูจิต คือผู้รู้นั้นเอง จิตผู้รู้มีประจำอยู่แล้วในคนทุกคน
ไม่ต้องไปหาที่อื่น ตั้งจิตอยู่ในจิต
ตั้งสติอยู่ในจิต ให้จิตเป็นผู้บริกรรมเอง
ไม่เอาอะไรมากมาย เอาพุทโธอย่างเดียว
แล้วบริกรรมพุทโธ พุทโธ พุทโธไป
จนจิตของเรามันสงบ ในการบริกรรมพุทโธ
ผู้บริกรรมพุทโธอยู่ตรงไหน
ตั้งสติอยู่ตรงนั้น ให้จิตเป็นผู้ว่าเอง
ไม่ต้องว่ากับปาก ตาของเราหลับ
แล้วให้จิตเป็นผู้ว่าเอง
ตั้งสติอยู่ตรงนั้นบริกรรมเรื่อยไป
เวลามันสงบเราจะรู้เอง
คือจิตมันรวม มันรวมวูบลง
แล้วก็จิตมีอารมณ์อันเดียว
นั่นมันสงบแล้ว แล้วถ้าจิตสงบแล้ว
เราไม่ต้องบริกรรมต่อไป
จิตกำหนดอยู่เฉยๆ
หมายถึงว่า จิตหลุดจากคำบริกรรมไป
นั่นจิตมันรวม จิตมันสงบ
แล้วเราก็ไม่ต้องหันมาบริกรรมอีก ความสงบอยู่ไหนก็ตั้งสติอยู่นั้น
แล้วกำหนดดูอาการของสมาธินั้นเป็นอย่างไร
แล้วก็ต้องจำให้ชัดเจน จิตของเราสงบแล้ว
นี่ให้รู้จักว่าจิตของเราสงบแล้ว
กุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวง
ก็ไปรวมอยู่ที่จิตที่สงบนั้นเอง ที่สูงสุดอยู่ตรงนี้ หาที่อื่นไม่พบ
จิตที่สงบนั้นคือตัวบุญ
เราต้องจำให้ชัด เวลาเรารู้ เรารู้เอง
มันผุดขึ้นมาในจิตของเรา
ให้รู้เฉพาะตน นั่นละตัวบุญที่แท้จริง
แล้วไปหาที่อื่นไม่พบหรอกบุญ
ต้องหาจากจิตจากใจของเรา
ถ้าจิตของเราสงบ บุญเกิดขึ้นแล้ว
ไม่ต้องไปหาที่อื่น หาที่อื่นก็ไม่พบ
บุญกับบาปก็ประจำอยู่แล้วทุกๆคนนั่นแหละ
แต่บุญคือความสุข บาปคือความทุกข์
ทำจิตของเราให้สงบแล้ว
หมายความว่าเราทำบุญเกิดแล้ว
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น