พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
“สติควบคุมใจและการแสดงออก”
ถาม : ถ้าเราไม่มีสติควบคุมใจ เวลามีอะไรมากระทบที่ทำให้ไม่พอใจ ไม่ถูกใจเรา เราก็จะไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ เราอาจจะเผลอก็ดี หรือตั้งใจก็ดี แสดงกิริยาความไม่พอใจ ไม่สบอารมณ์ออกมา ทั้งทางการกระทำ หรือคำพูดใช่หรือไม่คะ ปฏิกิริยาโต้ตอบที่แสดงออกหลังมีสิ่งมากระทบใจนี้ เป็นตัววัดระดับสติ ปัญญาของนักปฏิบัติ หรือเรียกง่ายๆว่า การแสดงออกบ่งบอกระดับธรรมของนักปฏิบัติใช่หรือไม่คะ
พระอาจารย์ : ใช่ ก็ถ้ามีสติมันก็จะควบคุมปฏิกิริยาต่างๆ ได้ ใจก็จะเป็นอุเบกขาตลอดเวลา ดังนั้นการพูดการจาอะไรก็จะเป็นไปแบบปกติ ไม่มีอารมณ์ต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่เป็นเครื่องวัดคน วัดใจของผู้พูดผู้แสดงนั้นเสมอไป เพราะบางที ผู้พูดผู้แสดง ถึงแม้ไม่มีอารมณ์แต่ก็ต้องแสดงกิริยาอาการเหล่านั้นออกมา เพื่อเป็นการปราบ เพื่อเป็นการข่มขู่ ถ้าไม่ปราบไม่ข่มขู่ก็จะลุกลามไม่เกรงใอกเกรงใจ ครูบาอาจารย์บางทีก็ต้องดุด่าว่ากล่าว ถ้าไม่ดุด่าว่ากล่าวก็เดี๋ยวจะได้ใจ จะไม่กลัวไม่เกรง ถ้าพูดดีๆเขาก็จะไม่เกรงใจ ไม่กลัว แต่ถ้าพูดแบบโหดร้าย ดุร้ายหน่อย ฟังเเล้วกลัวขึ้นมา อันนี้ก็เป็นเหมือนกับเชือดไก่ให้ลิงดู เข้าใจไหม เท่านั้นเอง แต่ใจของท่านก็ยังเป็นปกติอยู่ แต่การแสดงออกมาเป็นกิริยา เช่น บางทีหลวงตาด่าพระนี้เป็นเหมือนกับโกรธเกลียดกัน ไล่กัน องค์นี้ไม่ได้เรื่องเลย มาอยู่ทำไมที่วัดนี้ มาอยู่แล้วทำให้วัดเสียหายเสื่อมเสียไปดีกว่าอย่าอยู่เลย อย่างนี้จะไปแสดงว่าท่านไม่มีสติ มีอารมณ์หรือเปล่า อันนี้ก็พูดไม่ได้ เพราะท่านอยู่ในหน้าที่ที่จะต้องแสดงกิริยาอาการเหล่านั้นออกมา เพื่อข่มขู่เพื่อปรามกิเลส ของลูกศิษย์ลูกหาของผู้ที่มาเกี่ยวข้องด้วย เพราะครูบาอาจารย์บางรูปท่านใจดี ลูกศิษย์ลูกหาก็เลยลามปรามกันใหญ่ออกลวดออกลายกันตีกันฟาดกัน
สมัยที่มีการฉลองวัดอโศการาม ท่านพ่อลีท่านจัดงานเลี้ยงฉลอง กึ่งศตวรรษ ๒,๕๐๐ ก็มีญาติโยมไปร่วมกันทำบุญ มีพวกแม่ครัว แม่ค้าอะไรไปช่วยกันทำครัว แล้วก็ไปแตกแยกเป็น ๒พวกกันแล้วมาทะเลาะกัน พาลไม่ยอมทำกับข้าวเลี้ยงพระ เลี้ยงญาติโยม ท่านพ่อลีก็รู้ว่า คนที่จะมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ก็ต้องเป็นหลวงตาเท่านั้น ท่านก็เลยส่งหลวงตาให้ไปเจรจาหย่าศึก หลวงตาไปถึงก็ชี้หน้าบอก พวกเธอนี้กำลังจะเป็นเหมือนหมา รู้หรือเปล่า มาทะเลาะกัน พวกเรามาทำอะไรกัน พวกเราทำมาบุญกันไม่ใช่หรือ แล้วนี่มันเป็นการทำบุญหรือ มาทะเลาะกัน มาทำให้งานของหลวงพ่อท่านเสียหายอย่างนี้ รู้ไหมว่าถ้าพวกเราทำอย่างนี้หลวงพ่อท่านจะทำอะไร ท่านก็จะแบกกลด แบกบาตรของท่านออกจากวัดไปทันทีเท่านั้นแหละ พอพูดอย่างนี้เขาก็ได้สติกลับมายอมกัน แล้วก็กลับมาทำหน้าที่ของตนต่อไป.
.
ธรรมะบนเขา วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘
“คน ๔ ประเภทที่จะบรรลุธรรม”
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น