11ท่าร่วมเพศสำหรับมือใหม่หัดสนุก
1. ท่านิวมิชชันนารี (The New Missionary)
ส่วน มากจะคล้ายท่ามิชชันนารี (หญิงอยู่ล่าง ชายอยู่บน) จุดเน้นอยู่ที่ขาทั้งสองของผู้หญิง เมื่อผู้ชายนอนคว่ำหน้าเหยียดยาวราบบนตัวผู้หญิง ให้ผู้หญิงยกขาทั้งสองไขว้รอบเอวผู้ชายไว้ เพื่อช่วยให้ผู้ชายสอดใส่ง่ายขึ้น
คำแนะนำ : ยิ่งผู้หญิงยกขาสูงเท่าไรผู้ชายก็ยิ่งสอดใส่ได้ลึกมากขึ้นเท่านั้น ท่านี้มีข้อดีของท่ามิชชันนารีอยู่ด้วย คือคู่รักสามารถสื่อสารกันได้ด้วยสายตา สองมือเคลื่อนไหวได้อิสระ และยังกระตุ้นอารมณ์ได้ดีอีกด้วย
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: ผู้หญิงใช้เรียวขาทั้งสองไขว้โอบรอบสะโพก หลังหรือแม้กระทั่งไหล่ของผู้ชาย โดยให้เป็นรูปตัววี
แบบ ที่ 2: สำหรับผู้หญิงพลังสูงก็น่าจะใช้สองเรียวขาไขว้โอบรัดลำตัวของฝ่ายชายไว้ จากนั้นพลิกตัวกลับให้อยู่ในท่าผู้หญิงอยู่บนผู้ชายอยู่ล่าง
แบบที่ 3 : ถ้าคุณใช้ท่านิวมิชชันนารีแล้วยังรู้สึกเบื่อแทบตาย ก็จงรีบเปลี่ยนไปใช้ท่าอื่นเสียเถอะ
2. ท่าหกคะเมน (69 Linkage)
หรือ ที่เรียกว่า ท่า 69 เป็นท่าที่เป็นไปตามตัวเลข คือการกลับหัวกลับหาง ไม่ว่าชายหญิงนอนลงแล้วใครจะอยู่บนหรือล่างก็ไม่เป็นปัญหา หากแต่เคล็ดลับของท่านี้อยู่ที่ปาก และนอกจากใช้ปากแล้วยังใช้มือเป็นตัวช่วยได้อีก
คำแนะนำ : ท่า 69 เป็นท่าที่แสดงได้ถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นของทั้งคู่ และยังมีคนมองว่านี่น่าจะเป็นท่าที่ทั้งสองได้สัมผัสเรือนร่างกันและกัน แต่ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศให้ดีก่อนและจะดีที่สุดเมื่อได้พูดคุยกันก่อนใช้ ท่านี้
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
เวลา ใช้ท่า 69 นี้ให้ทั้งคู่ลองใช้ท่าคะแคงนอนเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในท่วงท่า ที่ตนเป็นฝ่ายรุกทั้งสองคน และนอกจากใช้ปากแล้วก็น่าจะใช้มือเข้าช่วยด้วย
ไม่แนะนำ : ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรๆที่มีกลิ่นคาวหรือรสฝาดขมก็ควรจะเลี่ยงท่านี้ และห้ามใช้ท่านี้ตอนเมาแอ๋เด็ดขาด
3. ท่ามิชชันนารี (The Missionary)
เชื่อ กันว่าท่าร่วมรักที่ชายอยู่บนหญิงอยู่ล่างนั้นเป็นท่าร่วมรักที่แพร่หลายที่ สุดในโลก เป็นท่าร่วมรักซึ่งเป็นธรรมชาติที่สุดและเหมาะสมที่สุด
คำแนะนำ : ผู้หญิงหัวโบราณที่มองเรื่องเพศเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นสาวกของท่า นี้ ถ้าคุณไม่ชอบใจท่าร่วมรักที่เหมือนสัตว์ และอยากส่งสายตาประสานกันขณะร่วมรักแล้วใช้สองมือลูบไล้เรือนร่างของอีกฝ่าย ท่ามิชชันนารีนี้ก็น่าจะเป็นท่าแรกที่คุณเลือกใช้ในการร่วมรัก
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: ใช้มือของคุณให้เป็นประโยชน์
แบบที่ 2: ให้เรือนร่างของเขาแนบชิดสนิทกับตัวคุณ สองแขนโอบกอดคุณไว้แนบแน่น เพื่อรับรู้ถึงจังหวะและแรงกระแทกของการสอดใส่เข้าออก
ไม่แนะนำ : ถ้าคุณชอบเป็นฝ่ายรุกในกิจกรรมบนเตียงแล้วล่ะก็ ท่ามิชชันนารีอาจทำให้เบื่อตายเลยก็ได้
4. ท่าหูกระต่าย (The Rabbit Ears)
ฝ่าย หญิงยกเรียวขาทั้งสองขึ้นกอดไว้ พร้อมถ่างขาออกแล้วชันเข่าจนเกือบถึงใบหู เปิดเผยให้เห็น "กิฟต์เซต" ซึ่งฝ่ายชายจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนขณะที่เขากำลังสอดใส่
คำแนะนำ : ท่ายากๆที่พลิกแพลงมาจากท่ามิชชันนารีนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ตัวอ่อนมากๆและเป็นท่าที่เหมาะสำหรับผู้ชายที่มี "เจ้าหนูสั้น"
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: เหมือนท่าร่วมกอดรัดเป็นตัว V โดยใช้หมอนรองไว้ตรงช่วงเอว จะช่วยให้ส่วนล่างของร่างกายทั้งคุณและเขาได้สัมผัสกันได้ลึกขึ้น
แบบ ที่ 2: ให้เขาใช้มือยกก้นของคุณขึ้น หรือลูบไล้คลึงเคล้นบริเวณที่ไวต่อการสัมผัสบนตัวคุณ เพื่อกระตุ้นปลุกเร้าให้คุณมีอารมณ์มากขึ้น
ไม่แนะนำ : ถ้าเขามี "เจ้าหนูยาว" และคุณเองทนรับแรงกดบริเวณเอวไม่ไหว้ ก็อย่าลองใช้ท่านี้จะดีกว่า
5. ท่าโก้งโค้ง (The Doggie)
ผู้หญิง คุกเข่าอยู่ในท่าคลานสี่ขา มือทั้งสองยันพื้นค้ำลำตัวไว้ หรือจะโก้งโค้งปล่อยช่วงบนลำตัวให้เป็นอิสระก็ได้ ผู้ชายคุกเข่ากางขาอยู่ระหว่างสองขาของผู้หญิง ใช้สองแขนโอบรัดเอวผู้หญิงไว้ แล้วสอดใส่จากข้างหลังเข้าไป
คำแนะนำ : ท่าโก้งโค้งเป็นหนึ่งในสามท่าเด็ด และเป็นท่วงท่าร่วมรักเบื้อต้น ท่านี้ผู้ชายทำหน้าที่เป็นคนนำจังหวะ ส่วนใหญ่ผู้ชายที่มี "เจ้าหนูสั้น" มักจะชอบใช้ท่านี้ เพราะสามารถสอดใส่ได้ลึก ควบคุมจังหวะให้ช้าหรือเร็วก็ได้ สำหรับผู้หญิงก็รู้สึกได้ว่ามี "แท่งเนื้อ" สอดใส่อยู่ในร่างกายตัวเองแม้จะ "สั้น" ก็ตาม ถ้าหากคุณชอบเป็นผู้รับ คุณก็น่าจะชอบท่วงท่านี้
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: ผู้ชายใช้มือข้างหนึ่งจับมือทั้งสองของผู้หญิงไว้ ให้ความรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการ ส่วนอีกมือของเขาก็ลูบไล้คลึงเคล้นก้นของผู้หญิง
แบบที่ 2: ผู้ชายใช้มือข้างหนึ่งยกเรียวขาของผู้หญิงขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้คลึงเคล้นเต้านมหรือ "น้องหนู" ที่ไม่มีอะไรปิดบัง ซึ่งจะทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นขณะสอดใส่ ส่วนฝ่ายหญิงก็จะมีความสุขจากการถูกสัมผัสลูบไล้ด้วยมือของเขา
ไม่แนะนำ :ข้อ เสียของท่านี้ก็คือ ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ส่งสายตาและไม่มีการตอบโต้จากฝ่ายหญิง เนื่องจากฝ่ายชายสอดใส่จากด้านหลังจึงทำให้ "น้องหน" ของเธอได้รับการกระตุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยทั่วไปท่านี้จะทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดยาก ถ้าหากคุณไม่ชอบให้ผู้ชายกำหนดและมองว่าการใช้ท่วงท่าร่วมรักที่ไม่ได้หัน หน้าเข้าหากันเป็นเรื่องหยามน้ำใจกัน ท่าโก้งโค้งนี้จะไม่เพียงทำให้คุณไปไม่ถึงจุดสุดยอดเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณอารมณ์เสียและโมโหได้อีกด้วย
6. ท่าตะแคง (The Sideways)
ทั้ง สองนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน ผู้ชายยกเรียวขาผู้หญิงขึ้นแล้วสอดใส่เข้าออก ร่างกายส่วนบนของทั้งคู่จึงเป็นอิสระ ดังนั้นจะจูบกันหรือสัมผัสลูบไล้คลึงเคล้นอีกฝ่ายก็ได้ตามชอบใจ
คำแนะนำ :ใคร ที่ชอบท่ายากๆ หรือว่าฝ่ายชายมี "เจ้าหนูยาว" น่าจะลองใช้ท่านี้ดู เพราะหาก "เจ้าหนูสั้น" จะไม่สามารถสอดใส่ได้ลึกนักถ้าใช้ท่านี้ และยังยากที่จะกระแทกสอดใส่เข้าไปอย่างแรงๆได้ ท่านี้จึงเป็นท่า "ผ่อนหนักเป็นเบา" สำหรับผู้หญิงที่ไม่อาจทนรับการกระแทกกระทั้นแรงๆได้
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
ถ้า คุณติว่าท่านี้ใข้ไม่ได้ผล ก็อาจจะลองเปลี่ยนจากท่านี้ไปเป็นให้ชายอยู่บนหรือหญิงอยู่บนก็ได้ จงจำวไว่หลายๆท่วงท่านั้นทั้งชายหญิงต้องมีใจที่อยากจะลองทำกันดูเพื่อให้ ได้อารมณ์ แต่ที่สำคัญก็คือ อย่าฝืน
คำแนะนำ: ถ้าคุณรู้สึกหงุดหงิดเหมือนเกาไม่ถูกที่คัน หรือฝ่ายชายมี "เจ้าหนูสั้น" ก็อย่าได้เลือกใช้ท่านี้เลย
7. ท่าสองเต้นหนีบ "เจ้าหนู" (The Breast Pusher)
ผู้ชาย นั่งทับบนเรือนร่างที่นอนเหยียดยาวของผู้หญิงตรงบริเวณราวสะดือ ใช้หน้าอกของผู้หญิงหนีบ "เจ้าหนู" ของเขาไว้ และลูบไล้คลึงเคล้นเต้านมผู้หญิงเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า "เจ้าหนู" ได้ถูกถูรูดไปมา
คำแนะนำ : เป็นท่วงท่าที่พบกันบ่อยมากจนนักแสดงหนังโป๊ผู้ชายมักจะชื่นชอบท่วงท่านี้ กันมาก เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบความตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นการแข็งตัวหดตัวของ "เจ้าหนู" ของผู้ชาย หากคุณคิดว่าตัวเองมีหน้าอกใหญ่ และชอบบทบาทนักแสดงในฝัน ทั้งยังรู้สึกดีที่ถูกกระตุ้นจากการลูบไล้คลึงเคล้นเต้านมแล้วล่ะก็น่าจะลอง ใช้ท่านี้ดู
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: ถ้าฝ่ายชายมีน้ำหนักตัวมากเกินไปก็น่าจะลองเปลี่ยนท่าดู หรือจะให้เขานั่งตรงขอบเตียงหรือโซฟา แล้วค่อยจัดท่วงท่าให้เหมาะสมก็ได้
แบบที่ 2: ถ้าหากคุณเป็นคนนำในการร่วมรักแล้ว ก็น่าจะลองใช้ปลายลิ้นหรือปลายนิ้วเข้าช่วยในการกระตุ้นเร้าอารมณ์ "เจ้าหนู" ไปด้วย
ไม่แนะนำ : ท่าสองเต้าหนีบ "เจ้าหนู" เป็นท่าที่ออกจะล้ำเส้นหน่อย ถ้าหากคุณไม่ชอบท่านี้เพียงเพราะว่าคุณรู้สึกเหมือนว่าผู้ชายมีอำนาจเหนือ กว่า หรือหากคุณไม่มีความสุขก็น่าจะบอกเขาตรงๆว่า "อย่าทำให้ฉันต้องลำบากใจเลย"
8. ท่าหันหน้าเข้าหากัน (The Opposite)
ท่วง ท่านี้เป็นการพลิกแพลงจากท่ามิชชันนารีและท่าผู้หญิงอยู่บน ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน สองแขนโอบกอดกันไว้ สองขาไขว้เกี่ยวรัดกันไว้ด้วย ซึ่งโดยปกติผู้ชายจะนั่งเป็นฐาน (ให้ผู้หญิงนั่งทับ ซึ่งทำให้ผู้หญิงสามารถเป็นคนควบคุมจังหวะเข้าออกได้)
คำแนะนำ :คน ชอบกอดกันมักชอบท่าหันหน้าเข้าหากันที่โรแมนติกนี้ เพราะเรือนร่างทั้งสองคนจะได้สัมผัสกันได้มากขึ้น และยังแนบหน้ากันได้ด้วย สำหรับอีกฝ่ายที่มีหน้าตาหล่อเหลาหรือสะสวย และชอบร่วมรักกันไปจูบกันไปด้วย ท่านั่งนี้จะให้ความรู้สึกโรแมนติกที่สุดในการร่วมรัก
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: ถ้ายังไม่เคยชินกับการเห็นอวัยวะเพศที่หันเข้าหากันอย่างโจ่งแจ้ง จะใช้ผ้าปูที่นอนห่มปิดช่วงล่างของร่างกายไว้ แล้วประสานสองมือวางบนหน้าอกให้อยู่ในท่านั่งที่เห็น "จุ๊กกรูกับจุ๋มจิ๋ม" แบบพอวับๆแวมๆ จะให้ความรู้สึกปลุกเร้าอารมณ์เพศได้ดีกว่าท่วงท่าอื่นๆ
แบบ ที่ 2: เมื่อเริ่มใช้ท่านี้ให้ลองใช้นิ้วมือเขี่ยวาดเบาๆวนไปมาบนใบหน้าของเขา แล้วเลื่อนนิ้วมือลงไปข้างล่าง ถ้าเขารู้ใจคุณเขาก็จะทำตามบ้าง จากนั้นคุณจึงพา "เจ้าหนู" ของเขาไปอยู่ในช่องทางที่ถูกต้อง แล้วค่อยปล่อยให้เขาแสดงบทบาทต่อเอง
ไม่แนะนำ :สำหรับผู้หญิงที่ชอบทำอะไรให้เสร็จเร็วๆ อาจติว่าท่านั่งนี้ให้จังหวะช้าจนเกินไป ท่วงท่านี้จึงควรเป็นท่วงท่าที่ใช้ชั่วคราวเท่านั้น
9. ท่าชูแขนยกขา (The V-formation)
ผู้หญิง นอนหงายในขณะที่ผู้ชายใช้มือทั้งสองจับข้อเท้าผู้หญิงแล้วยกเรียวขาทั้งสอง ของเธอขึ้นสูง พร้อมถ่างขาผู้หญิงออกให้เป็นรูปตัว V ถ้าเหนื่อยหรือเมื่อย สามารถพักขาเธอไว้บนไหล่ของผู้ชายแล้วร่วมรักกันต่อไปได้
คำแนะนำ : ผู้หญิงที่ชอบท่ามิชชันนารีมักชอบท่าชูแขนยกขานี้ เพราะสามารถผ่อนคลายเรียวขาทั้งสองได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเป็นตะคริวเพราะถูกกดไว้นานหรือบ่อยเกินไป และเมื่อเรียวขาทั้งสองถ่างออกอ้าซ่าเช่นนั้น แม้เขาจะเป็นพวกที่มี "เจ้าหนูสั้น" ก็จะไม่ทำให้เกิดอาการ "เกาไม่ถูกที่คัน" และเยี่ยมที่สุดก็คือ คุณจะได้เห็นท่าทางเซ็กซี่ของเขาในขณะที่เขาจูบขาอ่อนของคุณ แต่นี่สำหรับหนุ่มรูปหล่อเท่านั้นล่ะ
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: หาหมอนนุ่มๆ สักใบหนุนตรงช่วงเอวไว้ให้ช่วงล่างของเรือนกายได้สัมผัสแนบเนื้อเข้าถึงกันมากขึ้น
แบบที่ 2: เมื่อเรียวขาทั้งสองของคุณวางอยู่บนหัวไหล่ของเขา ก็น่าจะลองสอนให้เขาใช้มือที่ยังว่างอยู่ทำ "อะไรๆ ก็ได้ตามใจชอบ"
ไม่แนะนำ :สำหรับ ผู้หญิงที่ชอบเป็นฝ่ายรุกบนเตียงก็อย่ามามัวเสียเวลากับท่านี้ ยิ่งถ้าคุณไม่มั่นใจในน่องตัวเองด้วยแล้ว ท่านี้ก็อาจทำให้คุณรู้สึกกระอักกระอ่วนใจได้
10. ท่าคาวบอยสาวนั่งหันหลัง (The Reverse Cowgirl)
ผู้ชาย นอนหงาย ผู้หญิงหันหลังแล้วนั่งครอมลงไปบน "เจ้าหนู" ให้สอดใส่เข้าไปลึกแค่ไหนก็ได้ด้วย ท่านี้พลิกแพลงจากท่าผู้หญิงอยู่บนนั่นเอง
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: คุณอาจจะบอกให้เขาช่วยดึงมือทั้งสองของคุณจากด้านหลัง เพื่อเพิ่มแรงลากให้ตัวคุณ หาจุดที่กระตุ้นเร้า "น้องหนู" ได้ดีที่สุด
แบบ ที่ 2: ถ้าเขาเป็นพวกที่มี "เจ้าหนูยาว" คุณน่าจะลองนอนหงายลงไปบนตัวเขา เขาจะใช้สองมือมาคลึงเคล้นลูบไล้เต้านมของคุณเองโดยธรรมชาติ แน่นอนว่าต้องระวังว่าเขาจะรับน้ำหนักตัวคุณได้ด้วยหรือไม่
ไม่แนะนำ : ถ้าคุณไม่มีอารมณ์กับท่าผู้หญิงอยู่บน ไม่ว่าคุณจะนั่งหันหน้าหรือนั่งหันหลังก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน
11. ท่าผู้หญิงอยู่บน (The Woman On Top)
ผู้ชาย นอนหงาย ผู้หญิงหันหน้าเข้าหาผู้ชาย นั่งคร่อมลงบน "เจ้าหนู" ที่กำลังตื่นตัว และเป็นฝ่ายคุมจังหวะเข้าออก นอกจากนี้ยังควบคุม "เจ้าหนู" ให้สอดใส่เข้าไปลึกได้ตามที่ต้องการด้วย
คำแนะนำ :ท่า นี้เหมาะสำหรับร่วมรักในช่วงตั้งครรภ์ และผู้ชายลงพุงก็ใช้ท่านี้ได้เช่นกัน แต่มีข้อพึงระวังคือ เมื่อฝ่ายหญิงกำลังโยกตัวขึ้นลงอย่างรุนแรง ขณะร่วมรักอยู่นั้น "เจ้าหนู" มีโอกาสหลุดออกจากช่องคลอดได้
++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1 : ถ้าคุณนั่งคู้เข่าแล้วเหนื่อย ก็ลองนอนเหยียดขาทั้งสองออกไปตรงๆ
แบบที่ 2 : ลองปรับเปลี่ยนท่านั่งดูไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ท่าที่กระตุ้นเร้า "น้องหนู"ของคุณจนรู้สึกดีที่สุด
ไม่แนะนำ : ถ้าฝ่ายชายมี "เจ้าหนูยาว" แล้ว "น้องหนู" ของคุณจะรองรับไหวหรือไม่ และหากว่าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนที่ทำอะไรไม่มีจังหวะจะโคนแล้วล่ะก็ ขออย่าได้ลองท่านี้จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของคุณนอนของคุณเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น