ขมิบโดยความหมาย หมายถึง การทำให้ช่องทวารหนัก ทวารเบาเม้มไว้ การเม้มหรือขมิบโดยปกติก็มีหรือเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ที่ต้องฝึกก็เพื่อให้สามารถควบคุมได้ตามที่เราต้องการ เช่น ความแรง ความนาน จำนวนครั้ง
การขมิบต้องอาศัยกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานที่เรียกว่า ชุดกล้ามเนื้อ Levator ani ซึ่งประกอบด้วยกล้ามเนื้อย่อยๆ อีกหลายชิ้น เช่น กล้ามเนื้อ pubococcigeous, กล้ามเนื้อ puborectalis แต่กล้ามเนื้อหลักที่ใช้งานคือ กล้ามเนื้อ pubococcigeous หรือเรียกย่อๆ ว่า PC บางคนจึงเรียกการออกกำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานว่า PC exercise หรือ pelvic floor exercise
Amoid Kegel เป็นคนแรกที่แนะนำการออกกำลังของกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ตั้งแต่ปี ค.ศ.2491 บางคนจึงเรียกว่า Kegel's exercise โดยมีวัตถุประสงค์ในการบริหารเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน
ประโยชน์ของการขมิบ
การออกกำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานจะช่วยให้การฟื้นฟูหน้าที่การทำงานและความตึงตัว (แข็งแรง) ของกล้ามเนื้อกลับคืนมา โดยเฉพาะหญิงที่มีภาวะช่องคลอดหย่อนยานในระยะเริ่มแรก ทั้งการหย่อนยานของผนังช่องคลอดทางด้านหน้า ด้านกระเพาะปัสสาวะ (cystocele) และ/หรือ ทางด้านหลังซึ่งก็คือ ด้านกระพุ้งทวารหนัก (rectocele) รวมทั้งภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ในลักษณะต่างๆ
ฝึกขมิบอย่างไร
เริ่มต้นการฝึกจะต้องใช้จิตนาการว่า มีแท่งอะไรสักอย่างสอดอยู่ในรูทวารหนัก เช่นแท่งปรอทวัดไข้เสียบอยู่ในรูทวารหนัก แล้วมีเจ้าหน้าที่พยายามดึงแท่งปรอทออก ให้เราขมิบก้นเพื่อยึดแท่งปรอทให้แน่นไม่ให้เขาดึงออก ในตอนแรกๆ อาจยึด (กลั้น) ได้ไม่นาน (ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆ ฝึกต่อไปเพื่อสามารถขมิบได้นานขึ้น) เมื่อขมิบได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ก็ให้คลายการขมิบ ขบวนการตรงนี้เรียกว่า ขมิบ 1 ครั้ง ในตอนแรกๆ อาจขมิบได้ไม่นานก็ไม่เป็นไร ค่อยๆ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ จนสามารถขมิบได้นานอย่างน้อย 6 วินาที เมื่อขมิบ 1 ครั้งแล้วให้หยุดขมิบราว 10 วินาที (พักยกครับ) แล้วก็ฝึกทำต่อ การทำแล้วพัก ทำแล้วพักต่อเนื่องกันไปหลายๆ ครั้ง เรียกว่า ชุด (set) ควรฝึกวันละหลายๆ ชุด
บางคนบอกว่าการจิตนาการทางทวารหนักแบบนั้นไม่ค่อยถนัด ถ้าอย่างนั้นจะใช้วิธีการจินตนาการว่ากำลังปัสสาวะเพลินๆอยู่ ทันใดนั้นมีใครก็ไม่รู้เปิดประตูผัวะเข้ามาแล้วต้องกลั้นหรือหยุดปัสสาวะทันที (เบรกอย่างกระทันหัน) แบบนี้ก็ใช้กล้ามเนื้อชุดเดียวกัน
กล้ามเนื้อชุดนี้แข็งแรงขนาดไหน คุณเชื่อไหมว่า แข็งแรงขนาดหนีบเจ้าโลกของชายอยู่หมัดจนไม่สามารถดึงออกมาได้ก็แล้วกัน เมื่อหลายสิบปีก่อน ผมจำได้ว่ามีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า มีนักศึกษาชายหญิงคู่หนึ่ง แอบทำกิจกรรมนอกหลักสูตรในหอพักหญิง (ก็กิจกรรมอย่างว่านั่นแหละ) ขณะที่กำลังยึกยักยกโย่งอย่างเร่งรีบ (เพราะกลัวจะมีคนมาเห็น) ทันใดนั้นเพื่อนหญิงของนักศึกษาสาวที่อยู่ห้องเดียวกันกลับมาเสียงเคาะประตูดัง ป๊อกๆๆๆ เท่านั้นแหละ กล้ามเนื้อทุกมัดในอุ้งเชิงกรานก็หดรัดตัวพร้อมๆ กัน โดยมิได้นัดหมาย...หดรัดอยู่อย่างนั้น จะทำอย่างไรก็ไม่ยอมคลายตัว ฝ่ายชายเองพยายามอย่างยิ่งยวดทั้งดันทั้งถีบก็แล้ว ดาบน้อยก็ไม่ยอมหลุดจากฝัก เดือดร้อนเพื่อนสาวต้องเกณฑ์ชาวหอมาช่วยนำส่งโรงพยาบาล...จะไม่เกณฑ์ได้ไงละครับ การเอาไปโรงพยาบาลต้องเอาไปเป็นคู่แบบปาท่องโก๋ยังไงยังงั้น แถมต้องเอาผ้าห่มผืนใหญ่ๆ คลุมทั้งคู่ไว้ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆ หลายร้อยคนมาห้อมล้อมเป็นกำลังใจ...ไปถึงโรงพยาบาลหมอเอาน้ำแข็งประคบก็แล้ว ฉีดยาชาก็แล้ว ก็ยังเอาไม่อยู่ต้องถึงกับดมยาสลบฝ่ายหญิงเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว ฝ่ายชายจึงรอดชีวิตมาได้ ไม่อย่างนั้นละก้อโดนหนีบจนเน่าคาคูหาสวรรค์เชียวหละ
คนที่ได้รับการฝึกอย่างดีแล้ว ก็สามารควบคุมกล้ามเนื้อนี้ได้ดังใจนึก คนไข้ผมเคยเล่าให้ฟังว่า ที่บาร์อโกโก้แถวพัฒน์พงษ์ สาวบริการสามารถเป่าลูกดอกไปยิงลูกโป่งที่ห่างไปเป็นสิบๆ เมตรได้ การเป่าลูกดอกนี้สาวเจ้าไม่ได้ใช้ปากเป่านะครับ แต่ใช้ประตูสวรรค์นั่นแหละเห็นหรือยังว่าหล่อนควบคุมได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่สำหรับเราๆ ท่านๆ ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกครับ พอไว้ใช้งานตามปกติก็พอนะครับ
แหม...นอกเรื่องไปแยะ ก่อนจะกลับมาเรื่องขมิบขอทำความเข้าใจเรื่อง "คำ" สักหน่อย
1. ความแรงของการขมิบ มีหลายระดับตั้งแต่ น้อยมาก, น้อย, ปานกลาง, มาก การฝึกให้ได้ผลดีนั้นไม่ต้องให้แรงสุดๆ เอาแค่ปานกลางก็พอ นั้นคือให้กล้ามเนื้อบริเวณก้น, ท่อปัสสาวะ, ช่องคลอดมีการหดรัดตัวพอประมาณโดยสามารถ "สั่ง" ได้ คือสั่งให้ขมิบหรือหยุดขมิบได้
2. ความนาน การขมิบแต่ละครั้งประมาณ 6-10 วินาที
3. จำนวนครั้ง ควรทำให้ได้ 6-10 ครั้งต่อชุด
4. จำนวนชุดต่อวัน ฝึกอย่างน้อยวันละ 6-10 ชุด
เพื่อให้ง่ายในการฝึกเราใช้สูตรดังนี้
"ความนาน/จำนวนครั้ง/จำนวนชุดต่อวัน" สูตรก็จะเป็น 6/6/6 หรือ 8/8/8 หรือ 10/10/10 ร่วมกับการขมิบเล่นแบบเร็วๆ อีก จำนวนหนึ่งต่อวัน (อาจเป็นร้อยๆ ครั้งก็ได้) การ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น