0357 คำถามเกี่ยวกับการทำฌาน ๔
๓. ถาม ในองค์ฌานทั้ง ๔ นั้น เริ่มจากฌาน ๑ มีวิตก – วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา ฌาน ๒ มีปิติ สุข เอกัคคตา ฌาน ๓ มีสุข เอกัคคตา และฌาน ๔ มีเอกัคคตา อุเบกขา แต่หลวงพ่อสอนว่า ฌาน ๑ มีวิตก – วิจาร ฌาน ๒ มีปิติ ฌาน ๓ มีสุข ฌาน ๔ มีเอกัคคตา อุเบกขา เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
ตอบ ถ้าสอนว่าฌาน ๑ มีวิตก – วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา ก็จะไปสงสัยว่าอันไหนเป็นวิตก – วิจาร เป็นปิติ เป็นสุข เป็นเอกัคคตา ทำให้เกิดความยุ่งยากสับสน ว่า ฌาน ๑ อยู่ตรงไหน จึงย่อให้เข้าใจง่าย ให้จำเพียงว่า ฌาน ๑ อยู่ที่ วิตก – วิจาร เมื่อหยุดวิตกวิจาร หรือหยุดคิดก็เข้าถึงฌาน ๑ เหมือนเรานั่งเขียนหนังสืออยู่ จิตจดจ่ออยู่กับการเขียนหนังสือก็เป็นฌาน ๑ ถ้าเติมปิติ สุข เอกัคคตา ก็จะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าแล้ว ฌาน ๑ อยู่ตรงไหน อันที่จริงแล้วกำลังของฌาน ๑ ก็อยู่ตรงวิตก – วิจาร หมายความว่าพอหยุดนึกคิดได้จิตก็เข้าฌาน ๑ ถ้าภาวนาต่อไปพอมีขนลุกขนพองขึ้นมาก็แสดงว่าปิติเกิดขึ้นแล้วเป็น ฌาน ๒ ก็ให้ขึ้นฌาน ๒ ไปเลย เมื่อขึ้นถึงอุพเพงคาปิติ หรือกายสั่น หรือให้ยกมือขึ้นสั่นเพื่อให้เกิดอุพเพงคาปิติ ซึ่งจะเป็นอุบายให้เกิดกำลังหนุนให้มีฤทธิ์ มีอำนาจ มีตบะ การให้ยกมือขึ้นสั่นเป็นการช่วยเบื่องต้นสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกปฏิบัติ เมื่อมันเกิดขึ้นเองได้แล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องไปช่วยอะไร เพียงแค่นึกถึง ฌาน ๒ เท่านั้นกายก็สั่นเองได้ หรือถ้ายังไม่ชำนาญดีก็ใช้มือช่วยทีเดียวกายก็สั่นขึ้นเองได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น