วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พรหมจรรย์เบื้อต้นของพระพุทธศาสนา

พรหมจรรย์เบื้องต้นของพระพุทธศาสนา คือพระโสดาบัน

๑. ไม่เสียดายอยากถือศาสดาอื่นนอกจากพระพุทธเจ้า และพระธรรมคำสอนขององค์ท่าน และอริยสาวกขององค์ท่าน อริยสาวกขององค์ท่านเบื้องต้นนั้นไม่นิยมว่าภิกษุสามเณรและชั้นวรรณะใด ๆ

๒. ไม่เสียดายอยากล่วงละเมิดศีล ๕

๓. ไม่เสียดายอยากล่วงอบายมุขทุกประเภท

๔.ไม่เสียดายอยากจะถือฤกษ์ดียามดีพร้อมทั้งไสยศาสตร์ต่าง ๆ เช่น อยู่ยงคงกระพัน เป็นต้น

๕. ไม่เสียดายอยากค้าขายเครื่องประหาร ค้าขายมนุษย์ ค้าขายสัตว์เป็นและเนื้อสัตว์ที่ตัวฆ่าเพื่อเป็นอาหาร ค้าขายน้ำเมา ค้าขายยาพิษ การค้าขาย ๕ อย่างนี้ไม่เสียดายอยากค้าขายเลย

๖. ไม่เสียดายอยากจะผูกเวรกับท่านผู้ใด โกรธอยู่แต่ไม่ถึงกับผูกเวร แปลว่าโกรธแบบเบา ถ้าหากว่ามีผู้มาทำให้ผิดใจ จนถึงร้องไห้หรือน้ำตาออกก็ตกลงในใจว่า "ถ้าเคยทำเขาแต่ชาติก่อน ผลของกรรมตามมาก็ให้แล้วก้นไปซะ ข้าพเจ้าจะไม่จองเวรเลย ถ้าเขามาก่อใหม่ในชาตินี้ก็ให้แล้วกันไปซะ จะไม่จองเวรใด ๆ " ดังนี้เป็นต้น

เมื่อตกลงใจขนาดนี้ ดังกล่าวมาแล้วแต่ต้นก็ปิดประตูนรกแล้ว เพราะไม่มีนรกอยู่ในที่ใจ ปิดประตูเปรตอีกด้วย ปิดประตูสัตว์ดิรัจฉานอีกด้วย ก็มีคติเป็น ๒ ในอนาคตคือ "ไม่มนุษย์ก็สวรรค์" เท่านั้น

ซ้ำเข้าไปอีกว่า "สิ่งใดไม่เสียดายอยากล่วงละเมิด สิ่งนั้นก็ไม่ลำบากหัวใจเลย" นี่คือพรหมจรรย์เบื้องต้นของพระพุทธศาสนา คือพระโสดาบันเราดี ๆ นี้เอง ไม่นิยมชั้นวรรณะและเพศวัยใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากว่าเปิดประตูใจถึงพระโสดาบันแล้ว เรียกว่า "ดวงตาปัญญาเห็นธรรม" เป็นทุนแล้ว เรียกว่า โลกุตตระทุน เป็นทรัพย์ภายใน ทรัพย์ภายนอกหากดึงดูดไปเอง และก็เปิดประตูสกทาคามีไปเองในตัวด้วย จะเร็วหรือช้าก็ไม่ถอยหลังด้วยดังกล่าวแล้วนั้น

หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นั่งสมาธิแล้วชา นั่งสมาธิแล้วชา

ถาม  นั่งสมาธิแล้วชา ตอบ  อันนี้เป็นเรื่องของธรรมดาของกาย ที่นั่งนานๆ ย่อมเกิดความมึนชาขึ้นมา ถ้ารู้สึกเจ็บปวด หรือชาขึ้นมาแล้ว เราหยุดเปลี...