วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

... หลักการปฏิบัติวิปัสสนา

... หลักการปฏิบัติวิปัสสนา

     สำหรับท่านที่สามารถนั่งสมาธิได้จนจิต
เริ่มตั้งมั่นเป็นสมาธิ จิตเริ่มเกิด ปิติคือ
ความอิ่มเอิบใจ นิวรณ์ทั้ง ๕ สงบลง จิตมี
ความสุขผ่องใส จิตพร้อมที่จะรับ
รู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นตามสภาวะความเป็นจริง
ตามธรรมชาติ

   ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่ท่านจะทำวิปัสสนา
หลักการปฏิบัติให้พิจารธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ เพราะ
จะเป็นวิธีที่จะเห็น ไตรลักษณ์ ได้อย่างชัดแจ้ง
หลังจากที่นั่งสมาธิสัก ๑๕ นาที ธาตุทั้ง๔
ในร่างกายจะเรียกร้องไปดู อันนี้เรียกว่า
เอหิปัสสิโก

ธาตุ๔ ให้พิจารณาอย่างนี้

๑ ปฐวีธาตุ ธาตุดิน จะแสดงออกในอาการหนัก
แข็ง หยาบกระด้าง เบา อ่อนนิ่ม

๒ อาโปธาตุ ธาตุน้ำ แสดงออกในอาการซึมซับ
เอิบอาบ แตกแยก เกาะกุม

๓ เตโชธาตุ ธาตุไฟ แสดงออกในอากานร้อน
เย็น อุ่น หนาว

๔ วาโยธาตุ ธาตุลม แสดงออกในอาการเจ็บ
ปวด. เต้น ตอด เหน็บซ่าน โยก คลอน ไหว นิ่ง

  ธาตุ ๔ จะแสดงออกมาในอาการ
อย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจมีอาการ
มากกว่าหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาที่รูป เรียกว่า
กาย

   อาการเหล่านี้จะปรากฏขึ้นที่ใจ หรือ
มโนวิญญาณธาตุอย่างแน่นอน (รับรู้ได้ด้วยจิต)

   ใช้ปัญญามรรคองค์ที่ ๑ คือ สัมมาทิฐิ ให้ดู
ที่จิตและเวทนาซึ่งรับธาตุทั้ง๔ อยู่

หากมีอาการใดเกิดขึ้นมา เช่น อาการหนัก
แข็ง หยาบ กระด้าง  เบา อ่อน นิ่ม เป็นต้น
ให้ปัญญาสัมมาวิตก ที่เรียกว่า สัมมาสังกัปปะ
พิจารณาเหล่านั้นให้เป็น อนัตตา ไม่ใช่เรา
บังคับไม่ได้ แล้ววางอัตตาเสีย ให้ทำอย่างนี้
เรื่อยไปจนเห็นแจ้งทุกส่วนในกายเราเป็นเพียง
ธาตุ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เท่านั้น ซึ่งธาตุ ๔ ดิน
น้ำ ลม ไฟ ก็ไม่ใช่ของๆเรา อัตตาตัวตนที่เรา
เห็นเราสัมผัสได้ ที่แท้ก็เป็นเพียงภาพมายา
หาใช่ของจริงไม่ ให้เราหัดพิจารณาแบบนี้ให้
คล่องให้ชำนาญก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นั่งสมาธิแล้วชา นั่งสมาธิแล้วชา

ถาม  นั่งสมาธิแล้วชา ตอบ  อันนี้เป็นเรื่องของธรรมดาของกาย ที่นั่งนานๆ ย่อมเกิดความมึนชาขึ้นมา ถ้ารู้สึกเจ็บปวด หรือชาขึ้นมาแล้ว เราหยุดเปลี...