วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลักทำสมาธิ รูปณาน 0347

0347   หลักการทำสมาธิ รูปฌาน  (ต่อจากเมื่อวาน)

หลวงปู่สรวง   ปริสุทโธ วัดถ้ำขวัญเมือง

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์แสดงธรรมในเรื่องการปฏิบัติฌานที่ว่าตาทิพย์   หูทิพย์ อาจารย์ได้รู้ได้พบเห็นมาแล้วทั้งสิ้น เป็นของมีจริงเป็นจริง   จึงยืนยันให้ศิษย์ทุกๆคนจงเชื่อมั่นในคำสั่งสอนที่ให้ไว้นี้ ขอให้ตั้งใจปฏิบัติ   เมื่อเราได้ฌานแล้ว เราก็จะรู้ทันทีว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นของมีจริงทำให้เราศรัทธาอันแรงกล้าขึ้นทีเดียว   แล้วที่เมื่อก่อนเคยดูหมิ่นว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่มีจริงอะไรเหล่านี้ เมื่อเราทำฌานได้เราจะรู้คุณค่าของพระธรรม   ว่าพระธรรมเป็นของมีจริง เมื่อมีพระธรรมก็ต้องมีพระพุทธเจ้าจริง พระสงฆ์ก็อาสัยคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตามจนหมดอาสวะ  ตามเยี่ยงอย่างพระพุทธเจ้า

    ผู้ปฏิบัติมั่นคงอยู่ในศีลในธรรมทำฌานให้ได้   เมื่อทำฌาน ๔ ได้แล้ว จึงจะเริ่มวิปัสสนา การขึ้นวิปัสสนา   คือการขึ้นไปหาธรรมปัญญา ปัญญารู้จักละกิเลส ขอเตือนสติไว้อย่างหนึ่งว่าในขณะที่เรานั่งฌานจิตอย่าคิดอยากได้   หากมีตัณหาคือมีความอยากมันก็มีกิเลส เมื่อมีกิเลสมันก็ก้าวหน้าไปไม่ได้ เราต้องรู้จักทำใจของเราเฉยๆ อย่าไปคิดอยากได้นั่นอยากได้นี่   ถึงจะนานแสนนานที่นั่งอยู่ก็ต้องอดทน ขั้นต้นต้องมีความอดทน มันจะเจ็บปวดอะไรก็ตามอย่าคิดอย่าเกา เช่น มันคันขณะนั่งก็อย่าไปเกา ถึงแม้ยุงกัดอะไรก็ตามก็ต้องมีความอดทน   ถ้าจิตคิดให้มือไปเกา หรือเคลือนไหวกายอะไรเข้าแล้ว จิตมันจะถอยทันทีเพราะจิตต้องไปสั่งงานให้กายเคลื่อนไหว จิตก็เริ่มถอย ไม่ยึดกรรมฐานเสียแล้ว นี่เป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นทุกๆคนเมื่อมีความมุ่งหมายต้องการที่จะไปพระนิพพาน   หรือรู้จักพระนิพพาน เราต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนนี้อย่างเคร่งครัด

    พระเครื่องรางต่างๆที่มีความศักดิ์สิทธิ์นั้นอาศัยฌานนี้ทั้งสิ้นในการปลุกเสก   ไม่ใช่อาศัยอื่นตัวคาถาที่เขียนเป็นอักษรขอมไว้นั้น มันไม่ได้เป็นอะไรขึ้นมาหรอกมันตัวหนังสือ   ถ้าขลังจริงที่ตัวหนังสือก็ไม่จำเป็นต้องเอามานั่งเสกนั่งปรกตามที่เขาทำๆกัน แต่อาจารย์นี้ไม่สอนตามนั้น   พระพุทธเจ้าห้ามไว้ การเล่นเครื่องรางของขลังเล่นไสยศาสตร์ต่างๆ ผิดศีล ผิดวินัยพระ เป็นอาบัติที่เดียวแหละ   ผู้ที่มีความมุ่งหมายที่จะไปพระนิพพาน หรือพบพระนิพพาน จงเลิกสิ่งเหล่านั้นเสีย อย่าไปเล่น อย่าริเล่น เราตั้งใจให้มันรู้ให้มันเห็นแล้วก็ละกิเลส   รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ มันเกิดขึ้นที่ตัวเราขณะที่เรานั่งฌานนั่นแหละทุกอย่าง ไม่ใช่เพ่งหาจากข้างนอก มันเกิดขึ้นให้เราพบให้เราเห็นให้เรารู้   เมื่อเราได้ยินเสียงเราก็ทำการละมันเสีย มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นกับกายกับจิต ก็ให้รู้แล้วละมันไปเรื่อย จึงเรียกว่าทำวิปัสสนา ส่วนของวิปัสสนานั้นได้สอนไว้ ได้แสดงธรรมไว้ในเรื่องอิทธิบาท ๔   กับพละ ๕ ซึ่งต่อจากรูปฌาน ๔ นี้ไว้แล้ว ( จะนำมาโพสต์ต่อไปครับ)

(ต่อพรุ่งนี้ครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นั่งสมาธิแล้วชา นั่งสมาธิแล้วชา

ถาม  นั่งสมาธิแล้วชา ตอบ  อันนี้เป็นเรื่องของธรรมดาของกาย ที่นั่งนานๆ ย่อมเกิดความมึนชาขึ้นมา ถ้ารู้สึกเจ็บปวด หรือชาขึ้นมาแล้ว เราหยุดเปลี...