0060 จากสังขตะไปสู่อสังขตธาตุ เป็นเรื่องของจิต
เอามาจับกลุ่มกัน เรื่องบาป เรื่องบุญ เรื่องอเนญชานี้เป็นสังขตธาตุ เป็นธาตุที่มี ปัจจัยปรุงแต่ง ส่วนเรื่อง นิพพานนั้นเป็นอสังขตธาตุ คือ ธาตุที่ไม่มีอะไรปรุงแต่ง ไม่มีการปรุงแต่ง ที่มันวนเวียนอยู่ในกองทุกข์นี้ ก็คือธาตุที่มีปัจจัยปรุงแต่ง มีการปรุงแต่ง ถ้าหยุดการปรุงแต่ง เหล่านั้นเสีย ไม่เกี่ยวกับการปรุงแต่งมันกลายเป็นอสังขตธาตุ แล้วเป็น ดับทุกข์สิ้นเชิง ถ้ามันมีการปรุงแต่งอยู่ มันก็เป็นทุกข์ไปเรื่อยๆ ตามการแปรุงแต่ง ท่านระบุเอาการปรุงแต่ง นั่นแหละว่า เป็นตัวความทุกข์ หยุดการปรุงแต่งเสียเป็นความสุขอย่างยิ่ง เป็นบาลีว่า เตสํ วูปสโม สุโข เมื่อสวดบังสุกุลชักอนิจจาคนตายจะได้ยินคำว่า เตสํวูปสโม สุโข ระงับเสียซึ่งสังขารเหล่านั้นเป็นความสุข คือไม่มีการปรุงแต่งนั้นน่ะ เป็นความสุขมีความสุข ถ้ายังมีการปรุงแต่งอยู่ยังมีความทุกข์ แต่แล้วมันก็คือธาตุ ธาตุที่ปรุงแต่ง ธาตุที่ไม่ปรุงแต่ง ถ้าเราจะพูดให้สั้นที่สุด ก็พูดได้คำสองคำว่า จากสังขตธาตุไปสู่อสังขตธาตุมันมีเท่านี้ เรื่องของจิตทั้งหมดมันมีเพียงว่า จากสังขตธาตุไปสู่อสังขตธาตุ
จิตเป็นธาตุตามธรรมชาติ แล้ว เป็นพวกสังขตธาตุ คือ ปรุงแต่งได้ ทีนี้จิตได้รับการปรุงแต่ง มีการปรุงแต่งอยู่เรื่อย ปรุงแต่งอยู่เรื่อยๆ กว่าจะเป็นโพธิจิต ทีนี้มันก็ ข้ามไปสู่ฝ่ายอสังขตธาตุ ฉะนั้นเราพูดได้สั้นๆว่า เรื่องของจิตนั้นไม่มีอะไร นอกจากว่า จาก สังขตะไปสู่อสังขตะ มีเท่านั้นแหละ แต่คำเหล่านี้ไม่เคยได้ยิน เดี๋ยวก็ฟังไม่ถูก แล้วก็เลิกกัน จะพูดให้สั้นก็ว่า จากทุกข์ไปสู่ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เรื่องของจิตอันยืดยาวกว้างขวางมันไม่มีอะไรนอกจากพูดว่าจากความทุกข์ ไปสู่ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ธรรมะทั้งหมด ๘ หมื่น ๔ พัน ธรรมขันธ์หรือเท่าไรก็ตามมันมีย่อๆ สั้นๆ เพียงว่า จากความทุกข์ไปสู่ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ถ้าพูดโดยปรมัตถ์หน่อยก็พูดว่า จากสังขตะไปสู่อสังขตะ เรื่องมันมีเท่านั้น อะไรๆ มันก็เป็นสักแต่ว่าจิตแล้วมันมีอาการคือจากสังขตะแล้วไปสู่อสังขตะ แล้วเรื่องมันก็จบ
นี่คือความหมายของคำว่าธรรมะเล่มน้อย ที่พูดได้เพียงไม่กี่คำ อย่าลืมทบทวนที่พูดว่า จากธาตุตามธรรมชาติปรุงแต่งกันมา มีจิต อะไรๆ ก็คือจิตจนกว่าจะมีโพธิจิต ครั้นมีโพธิจิตแล้วก็มาถึงนิพพาน เลิกกันๆ จบกัน ยักษ์ตายเรื่องก็จบ เรื่องมีอย่างนี้ จากทุกข์ไปสู่ความดับทุกข์ เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น