วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

มีตัว มีตน เพราะไม่รู้ ท่านพุธทาสภิกขุ

มีตัวตน เพราะไม่รู้ เมื่อรู้แล้วตัวตนก็ดับ ดับด้วยปัญญา ไม่ต้องออกแรงมาก แต่ดับสนิท

#ตัวกูของกู

#โดยพุทธทาสภิกขุ

#ดับตัวตนอย่างที่๓

สําหรับความดับ "ตัวตน" อย่างที่ ๓ คือด้วยการอาศัยปัญญานั้น หมายถึง อุบายที่แยบ คายไปกว่านั้นมาก และไม่ใช่เป็นการกระทําที่บีบบังคับโดยตรง แต่เป็นการกระทําที่เรียกว่า เป็นการถอนรากเง่าขึ้นมาทําลายเสียโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น ในการทําลายหญ้าคา ถ้าเอามีด เอาพร้ามาฟาดฟันอย่างผิวเผิน หญ้าคาก็หายหน้าไปพักหนึ่งแล้วก็งอกขึ้นมาอีก หรือถ้าเอา อะไรมาทับมาปิดไว้ หญ้าคาก็หายหน้าไปเหมือนกัน แต่เมื่อเอาของทับออกเสียแล้ว หญ้าคาก็ กลับปรากฏอีก แต่ก็นานกว่าวิธีที่ ๑ ทีนี้ถ้าขุดรากหญ้าคาขึ้นเผาเสียให้หมด หญ้าคาก็หมดไป เป็นการถาวร เราทราบแล้วว่า "อวิชชา" เป็นรากเง่าของ "อัตตา" ฉะนั้น การทําลายอวิชชา ก็เป็น การทําลาย "อัตตา" และเพราะเราใช้วิชชาหรือปัญญามาทําลายอวิชชา เราไม่ใช้กําลังจิตล้วนๆ อย่างวิธีที่ ๒ เราจึงเรียกการกระทําอย่างนี้ว่า เป็นไปด้วยอํานาจของปัญญา และเราเรียกการดับ ของ "ตัวตน" ในลักษณะนี้ว่า "สมุจเฉทวิมุตติ" เป็นการดับ "ตัวตน" ด้วยการถอนรากเง่าขึ้นโดย สิ้นเชิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นั่งสมาธิแล้วชา นั่งสมาธิแล้วชา

ถาม  นั่งสมาธิแล้วชา ตอบ  อันนี้เป็นเรื่องของธรรมดาของกาย ที่นั่งนานๆ ย่อมเกิดความมึนชาขึ้นมา ถ้ารู้สึกเจ็บปวด หรือชาขึ้นมาแล้ว เราหยุดเปลี...